สงครามเย็นยุคโรคระบาด! รัสเซีย ประกาศพัฒนาวัคซีนโควิด-19 สำเร็จชาติแรก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจาก ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศชัยชนะของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชี้วัคซีนตัวนี้จะเริ่มใช้งานจริงเดือนตุลาคมนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างพากันตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของรัสเซีย ขณะที่มีการวิเคราะห์กันว่า วัคซีนถูกปูตินนำมาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองอำนาจ หรือสัญลักษณ์ของชัยชนะ คล้ายกับยุคสงครามเย็น

รัสเซีย อนุมัติใช้วัคซีน โควิด-19 ประเทศแรกในโลก

อีก 100 ล้านโดส! สหรัฐฯตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19

ก่อนหน้านี้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้แถลงการณ์อนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแรกของโลก โดยระบุว่าวัคซีนที่รัสเซียพัฒนาได้ผ่านการทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งวัคซีนตัวนี้จะใช้ชื่อว่า Sputnik-V โดยจะเริ่มผลิตวัคซีนในเดือนกันยายนนี้ และคาดว่าจะเริ่มฉีดให้กับชาวรัสเซียได้เร็วที่สุดคือในเดือนตุลาคม

แม้ว่ารัสเซียจะยังไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนตัวนี้ แต่ มิคาอิล มูราชโค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัสเซีย ยืนยันว่า วัคซีนกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันในกลุ่มตัวอย่างจริง

โดยประธานาธิบดีปูตินยังเสริมว่า ตัวเขาได้ฉีดวัคซีนให้กับหนึ่งในลูกสาวของตน และพบว่าผลข้างเคียงมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ หากรัสเซียเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ชาวรัสเซียในเดือนตุลาคมนี้ นับว่าเร็วมาก หากเทียบกับการคาดการณ์ขององค์การอนามัยโลก ที่เคยออกมาแถลงการณ์ว่าโลกจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 เร็วที่สุดคือปี 2021

แต่ความเร็วก็มาพร้อมกับข้อกังขามากมาย โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนของรัสเซียเพียงพอที่จะประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้ ซึ่งขณะนี้องค์การอนามัยโลก กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจากับเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนว่า รัสเซียต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขและคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเป็นหลัก

ด้านนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ และหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโควิด-19 ของทำเนียบขาว ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนของรัสเซีย

ซึ่งนายแพทย์เฟาซี ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการทดลองของรัสเซียที่รวดเร็วเกินไป พร้อมระบุว่าการพัฒนาวัคซีนสำเร็จกับการพิสูจน์ว่าวัคซีนตัวนั้นมีปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สองอย่างนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

นอกจากนี้ หลายเสียงได้วิเคราะห์ว่า การรีบประกาศชัยชนะในการพัฒนาวัคซีนของรัสเซียในครั้งนี้ สาเหตุหนึ่งมาจาก ความกดดันทางการเมืองจากรัฐบาลเครมลิน ที่ต้องการผลักดันให้รัสเซียเป็นประเทศแนวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ของโลก ยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่ทั่วโลกต่างกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เพราะรัสเซียอาจมองว่าวัคซีนจะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองอำนาจได้ คล้ายกับยุคสงครามเย็นที่มหาอำนาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการคานอำนาจกัน

แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์โรคระบาดนั้นต่างกับสมัยสงครามเย็นอย่างสิ้นเชิง วัคซีนเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต่างต้องพิสูจน์ด้านความปลอดภัยจนเป็นที่ประจักษ์ ประเทศอื่น ๆ ถึงจะเชื่อมั่นและกล้าใช้วัคซีนดังกล่าว

 

 

Photo : Handout / Russian Direct Investment Fund / AFP

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ