เปิดเอกสาร คำให้การ 'พ.ต.อ.ธนสิทธิ' อ้างชื่อ '2พล.ต.อ.' ตัวเชื่อม​ เปลี่ยนความเร็ว 'บอส'


โดย PPTV Online

เผยแพร่




"รังสิมันต์" แฉเอกสาร คำให้การ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ลำดับเหตุการณ์ เปิดชื่อ พล.ต.อ.- พ.ต.อ. ตัวเชื่อมดร.สายประสิทธิ์ ให้สูตรคำนวณใหม่จุดเปลี่ยนความเร็วเฟอร์รารี่ 'บอส อยู่วิทยา' เตรียมเชิญชี้แจงกมธ.

จากกรณีคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส อยู่วิทยา'ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียน กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต คดีพลิกหลายตลบ จนล่าสุดมีคำสั่งรื้อฟื้นคดีขึ้นใหม่ ทั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเสพโคเคน มีการตรวจสอบการทำคดีของตำรวจ การสั่งคดีของอัยการ

หึ่ง!ใบสั่ง 'ผู้ใหญ่' เปลี่ยนความเร็ว 'บอส' ปูด 'พ.ต.อ.ธนสิทธิ' ออกรายงานแก้ แต่หายไป

ที่ล่าสุด พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ตำรวจ ตำแหน่งผู้กำกับการ ถูกเพ่งเล็งเพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เปลี่ยนแปลงรายงานผลการวัดความเร็วจาก 177กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเหลือเพียงประมาณ 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง นำไปสู่จุดพลิกผันคดี จากสั่งฟ้องเป็นสั่งไม่ฟ้อง

ผู้บังคับบัญชา หรือแม้แต่อัยการชี้เป้าเดียวกัน อ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ถูกชงในสำนวนอย่างเปลี่ยนไป ดุลพินิจจึงคล้อยตามพยานหลักฐาน  พ.ต.อ.ธนสิทธิ ที่เคยเป็นเป้านิ่ง ทว่าเมื่อวานนี้(14 สิงหาคม) เคลื่อนไหวอย่างมีนัยยะ ด้วยการให้ข้อมูลผ่านคณะกรรมาธฺการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่ามีผู้ใหญ่ พาดร.สายประสิทธิ เกิดนิยม อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มาแนะนำและชี้วิธีการคำนวณความเร็วฉบับใหม่ ให้ทำตาม

“สิระ” เรียกร้อง “บิ๊กแป๊ะ” คุ้มครอง “พ.ต.อ.ธนสิทธิ” หลังแฉ ถูกตร.ผู้ใหญ่กดดัน

จ่อส่งป.ป.ช.เชือดตำรวจ 15 นาย เซ่นคดี"บอส วรยุทธ"

ล่าสุด วันนี้ (14 สิงหาคม 63) นางรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล หนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ เผยผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเอกสารความยาว5 หน้า ลงนามรับรองโดยพ.ต.อ.ธนสิทธิ ว่า 

[เปิดเอกสาร ตัวละครลับผู้พาดร.สายประสิทธิ์ มาเจอพ.ต.อ.ธนสิทธิ จนทำให้ความเห็นเรื่องความเร็วในคดีบอส อยู่วิทยา เปลี่ยนไป]

เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.63) ในห้องประชุมกรรมาธิการกฎหมาย พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดีบอส คนที่เปลี่ยนความเห็น เรื่องความเร็วจาก 177 เหลือ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีบอส อยู่วิทยา

พ.ต.อ.ธนสิทธิ ได้กล่าวในห้องประชุมกรรมาธิการฯ ว่ามีผู้บังคับบัญชาระดับสูงนำตัวอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาพบในห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วย และนำสมมติฐานของคดีว่าเป็นวิธีใหม่ที่คำนวณได้ และนำส่งเอกสาร 10 หน้า ที่ระบุความเร็วที่ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะนั้นเจ้าตัวมีเวลาจำกัด และเกิดแรงกดดันจนทำให้มีการเปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วต่อพนักงานสอบสวน

ทำให้ประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจและถูกตั้งคำถามจากสาธารณชน ว่าใครผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้น

พี่น้องประชาชนครับ คดีนี้เป็นมหากาพย์อันน่าอัปยศในกระบวนการยุติธรรมไทย ยิ่งค้นยิ่งเจอ ยิ่งสืบยิ่งเจอคนที่เกี่ยวข้องชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกล้าทำได้ ผมในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ได้รับเอกสารชี้แจงลำดับเหตุการณ์ กรณีคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธ อยู่วิทยา จาก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ซึ่งได้ระบุชื่อชัดเจน ว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้นเป็นใคร

ผมขอสรุปลำดับเหตุการณ์ให้พอสังเขปดังนี้นะครับ

1. พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น(ยศในขณะนั้น) เป็นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ 3กันยายน 2555และเป็นผู้ออกรายงานการตรวจพิสูจน์ยืนยันความเร็วที่ 177 กม./ชม. ลงวันที่ 26 กันยายน 2555

2. หลังจากนั้นอีก 4 ปี คือเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ ได้เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขอเข้าพบ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

3. ในวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ได้แนะนำอาจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ให้ผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางทำความรู้จัก และแจ้งว่า อาจารย์สายประสิทธิ์ มีสมมติฐานอีกวิธีมานำเสนอการหาอัตราความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธ เป็นผู้ขับขี่ โดยนำเสนอรายงานการวิเคราะห์จำนวน 10 หน้า ระบุความเร็ว 79.22 กม./ชม. และได้มอบเอกสารดังกล่าวให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง

4. ในวันเดียวกันนั้นได้มีการสั่งการให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น เข้าร่วมพิจารณากับพ.ต.ท.วิรดลฯ ในสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่งพ.ต.อ.วิรดลฯ ได้ส่งเอกสารสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 14 มกราคม 2559 โดยข้อความท้ายหนังสือดังกล่าวระบุว่าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้สอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ และส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้มีการคำนวณความเร็วตามสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ ในกระดาษอีกแผ่นซึ่งได้ค่าใกล้เคียงกัน พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ลงนามไว้ว่าเป็นการคำนวณของตนเอง

5. พร้อมกันนั้น พ.ต.อ.วิรดลฯ ให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ให้ปากคำเรื่องการคำนวณตามสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ โดยถามถึงความคลาดเคลื่อนที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการคำนวณตามรายงานการตรวจพิสูจน์ เมื่อ 26 กันยายน 2555 ที่ได้ 177 กม./ชม. ซึ่งพ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้ให้ปากคำว่าอาจเกิดขึ้นได้ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ ส่วนในเรื่องความคลาดเคลื่อนตามสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์ ในเวลานั้นซึ่งซึ่งพึ่งได้เห็นสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์เป็นครั้งแรกจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนหรือความบกพร่องอย่างไร

6.พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้ให้ปากคำในวันนั้นจะถึงเวลาประมาณ 22.00 น. สุดท้ายจึงลงนามในเอกสารสองฉบับฉบับแรกลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 อีกฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2559 โดยมีการให้เหตุผลว่าถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการเนื่องจากผู้บังคับบัญชาที่อยู่ด้วยไม่ได้ทักท้วง พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ จึงลงนามในเอกสาร

อัยการ แฉ “พ.ต.อ.ธนสิทธิ” ถูกบังคับกลับลำ ช่วย “บอส วรยุทธ”

7. ต่อมา 29 มีนาคม 2559 พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ได้ร่วมกับทีมพิสูจน์หลักฐานเดิมทำรายงานพิสูจน์สมมุติฐานของอาจารย์สสายประสิทธิ์ พบว่าการกำหนดให้ค่าตัวแปรต่างๆผิดไปจากความเป็นจริงมากโดยวิธีการดังกล่าวมีความผิดพลาดถึง 46% จึงทำให้ความเร็วที่ได้เท่ากับ 79.22 กม./ชม. ซึ่งเป็นค่าคำนวณที่ไม่ถูกต้อง จึงได้นำรายงานดังกล่าวเสนอต่อผู้บังคับบัญชาขอให้ประสานไปยังพ.ต.อ.วิรดลฯผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อขอให้ปากคำเพิ่มเติมยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ที่ 177 กม./ชม. ซึ่งในวันนั้นผู้บังคับบัญชาได้โทรประสาน พ.ต.อ.วิรดล ทันที แต่พ.ต.อ.วิรดล ปฏิเสธว่าไม่สามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้และได้ส่งเอกสารการให้ปากคำให้กับพนักงานอัยการแล้ว

พร้อมทั้งยังได้อ้างเหตุว่าคดีเรื่องขับรถเร็วขาดอายุความไปแล้ว ทำให้ผู้บังคับบัญชาและ พ.ต.ท.ธนสิทธิ สำคัญผิดว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกใช้ในสำนวนแล้ว แต่พ.ต.ท.ธนสิทธิฯ ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่าจะให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องในสำนวน

'เนตร นาคสุข'ปรากฏตัว​ ยันหลักฐานชัด 'บอส' ไม่ซิ่ง แต่ 'ด.ต.' เปลี่ยนเลน เชื่อ 'พล.อ.ท.'

8. ต่อมา เมื่อ 21 กรกฎาคม 2559 พ.ต.อ.ธนสิทธิฯ ได้เดินทางไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ แต่เมื่อไปถึงห้องประชุมได้มีเจ้าหน้าที่สภามาแจ้งว่าขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อนและไม่เคยมีใครติดต่อไปจนปัจจุบัน

9.ต่อมา พ.ต.อ.ธนสิทธิฯ เดินทางไปให้ถ้อยคำ กับคณะอนุกรรมการไต่สวน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. และได้แจ้งให้คณะอนุกรรมการไต่สวนบันทึกไว้ในเอกสารว่าขอเพิ่มเติมความเห็นในกรณีความเร็วของรถ ว่าสามารถพบความบกพร่องของสมมุติฐานในการคำนวณความเร็วของอาจารย์สายประสิทธิ์ ดังนั้นความเร็ว 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงไม่ถูกต้อง ซึ่งทั้งมีบันทึกคำให้การถูกคัดถ่ายเป็นสำเนาไว้

โดยสรุป

อาจารย์สายประสิทธิ์ ถูกนำตัวมาพบกับกองพิสูจน์หลักฐานกลางโดยอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ชื่อว่าพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลางในขณะนั้นคือ พลตำรวจโทมนู เมฆหมอก ได้ร่วมพิจารณาสมมุติฐานของอาจารย์สายประสิทธิ์และได้สั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางร่วมพิจารณาซึ่งการสอบปากคำพันตำรวจโทธนสิทธิฯ ต่อพลังงานสอบสวนเป็นการให้ปากคำในทางวิชาการแต่ไม่ถือว่าเป็นผลการตรวจพิสูจน์เพราะยังไม่มีการยกเลิกรายงานการตรวจพิสูจน์เดิมของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง

ดังนั้นในความเห็นของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ (ยศปัจจุบัน) เขายืนยันว่าไม่ได้กลับคำให้การในเรื่องการคำนวณความเร็วแต่อย่างใด

พี่น้องประชาชนครับนี่คือการสรุปข้อเท็จจริงจากเอกสารชี้แจงลำดับเหตุการณ์ซึ่งผมได้โพสต์รูปไว้แล้วพี่น้องสามารถอ่านและพิจารณาโดยละเอียดได้

สำหรับตัวผมในฐานะของกรรมาธิการการกฎหมายฯ จะเสนอให้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาเชิญบุคลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายตำรวจระดับสูงหลายคน ตามเอกสารฉบับนี้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในการประชุมโอกาสต่อไป

ทั้งนี้สำหรับ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ปัจจุบันมียศ พล.ต.อ. มีตำแหน่งรองผบ.ตร. แคนดิเดต ผบ.ตร.คนต่อไปด้วย

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ