อัปเดต สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วโลก 26 ส.ค.2563
“พุทธิพงษ์” ยัน ปิดเว็บ-สื่อโซเชียลฯ ผิดกฎหมาย ไม่เลือกปฎิบัติ
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอยางตลาดจังหวัดกาฬสินธุ์ นางจิตตานันท์ สุริยะพงษ์ธร อายุ 47 ปี ได้เข้าพบนายสุวิศิษฐ์ จำนงพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขอความเป็นธรรมและขอคำปรึกษา หลังได้รับหนังสือแจ้งการชำระหนี้เงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จำนวน 34,500 บาทหลังจากได้พยายามโทรติดต่อกับทางธนาคารกรุงไทยและกยศ.ตลอด แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าหรือได้ข้อมูลใหม่เพิ่มเติม นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังให้หาใบเสร็จการจ่ายปิดชำระบัญชีชีเงินกู้ กยศ.ไปยืนยัน แต่ไม่สามารถหาพบได้ เพราะเวลาผ่านมานานถึง 10 ปีแล้ว
ด้านนายสุวิศิษฐ์ จำนงพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม อ.ยางตลาด เปิดเผยว่า จากการสอบถามความเป็นมากับนางจิตตานันท์และโทรศัพท์สอบถามกับธนาคารกรุงไทย สาขาสามพรานและกยศ. ก็ได้ข้อมูลเดียวกันกับที่นางจิตตานันท์ทราบมา โดยระบุหนี้คงเหลือ 34,500.09 บาท เป็นเงินค้างชำระ 20,030.43 บาท ดอกเบี้ย 1,929.27 บาท และเบี้ยปรับ 12,540.39 บาท หากนางจิตตานันท์มั่นใจว่าตนได้ชำระและปิดบัญชีเงินกู้กยศ.หมดแล้วก็ให้นำใบเสร็จไปยืนยัน ซึ่งสิ่งที่จะคลี่คลายปัญหาได้ก็คือนางจิตตานันท์ ต้องไปค้นหาใบเสร็จดังกล่าวให้พบ เพราะทางธนาคารและกยศ.ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าต้องไปค้นหาใบเสร็จการปิดยอดหนี้
ขณะเดียวกันก็ขอให้ทางธนาคารและกยศ.เข้าตรวจเช็คข้อมูลในระบบอีกที และในช่วงนี้ก็ให้โอกาสกันและกัน อย่าเพิ่งเร่งรัดหนี้ค้างชำระ คิดว่าน่าจะจบลงด้วยดี
ทั้งนี้ล่าสุดนางจิตตานันท์ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ กยศ.ว่า สาเหตุที่มีหนังสือแจ้งการชำระหนี้เงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ด้วยวิธีการหักเงินเดือนนั้น เนื่องจากตรวจเช็คในระบบพบว่าปัจจุบันนางจิตตานันท์ สุริยะพงษ์ธร เป็นพนักงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทางกยศ.จึงได้มีหนังสือแจ้งชำระหนี้ให้ทราบ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ระหว่าง กยศ.กับผู้กู้
อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับแจ้งดังกล่าวทำให้นางจิตตานันท์รู้สึกโล่งใจ และมั่นใจว่าข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน ซึ่งก็ยืนยันว่าไม่เคยทำงานบริษัทในช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา อาจจะเป็นไปได้ว่าชื่อและนามสกุลของตนไปตรงกันกับคนอื่น จึงได้รับหนังสือทวงหนี้ กยศ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องกราบวิงวอนให้ทางกยศ.และธนาคาร ตรวจเช็คอย่างละเอียดให้มาก ๆ ซึ่งตนก็รอคำตอบผลการตรวจสอบอยู่ และยังยืนยันว่าตนได้ชำระปิดบัญชีเงินกู้ กยศ.ตั้งแต่ปี 2553 แล้วจริง ๆ