“เพื่อไทย” ไม่ร่วมสังฆกรรม “ก้าวไกล” แก้รธน. ลดอำนาจส.ว.
“เพื่อไทย” หวั่น ส.ว.ล้มแก้รัฐธรรมนูญ เตือนข้อเสนอ “ก้าวไกล” จอดยกแรก
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสมาชิกพรรคบางส่วน แถลงจุดยืนและข้อเสนอในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประการแรก พรรคก้าวไกลยังยืนยันที่จะผลักดันให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่ไปจำกัดว่าห้ามแก้หมวดใดหมวดหนึ่ง จะเป็นทางออกอย่างสันติให้สังคมไทย
สำหรับญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประเด็นนี้ พรรคก้าวไกลได้เสนอในที่ประชุมระดับหัวหน้าพรรค ของพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายครั้งในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้ไปกำหนดห้าม ส.ส.ร. แก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 1 และ 2 แต่สุดท้ายเมื่อเสียงส่วนใหญ่ของพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นต่างออกไป พรรคก้าวไกลจึงขอถอนชื่อในการเสนอญัตติ เพื่อสงวนความเห็นในเรื่องนี้เอาไว้ ทั้งนี้เมื่อญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอให้ตั้ง ส.ส.ร. เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา พรรคก้าวไกลจะโหวตสนับสนุนในวาระที่ 1 และจะขอแปรญัตติในวาระที่ 2 ต่อไป ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นเช่นไร ผ่านกลไกของ ส.ส.ร. และการลงประชามติ
ประการที่สอง หลังจากที่มีการยื่นญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร. ไปแล้ว พรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.
การปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่ควรรอให้ ส.ส.ร. เป็นผู้ดำเนินการ และประเด็นเรื่อง ส.ว. ที่ ส.ส.ร. ควรจะพิจารณานั้นไม่ใช่การพิจารณายกเลิกบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 แต่จะเป็นการพิจารณาว่า ประเทศไทยยังจำเป็นต้องมี ส.ว. อยู่อีกหรือไม่
ทางด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า คงไม่ต้องย้ำว่าผมและพรรคเพื่อไทยคัดค้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่แรก ผมเป็นคนเขียนญัตติขอตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้มีการแก้ไข ส่วนอาจารย์โภคินเป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแบบ ส.ส.ร. โดยจะไม่แตะหมวด 1 และ 2 เพื่อลดแรงต้านจากฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว. ที่จะต้องยกมือให้กับการแก้ไข
ผมและอาจารย์โภคินนำเอาญัตติและร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขแบบ ส.ส.ร. ไปเสนอที่ประชุม 7 พรรคฝ่ายค้านซึ่งทุกพรรคเห็นชอบด้วยเป็นเอกฉันท์ จึงได้มีการลงชื่อเสนอญัตติและผลักดันจนฝ่ายรัฐบาลยอมจึงได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ พรรคเพื่อไทยได้ยื่นร่างขอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และตั้ง ส.ส.ร. ตามมติของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านและมติของ กมธ. ซึ่งเดิมมี ส.ส. ของก้าวไกลลงชื่อด้วยแต่วันรุ่งขึ้นได้ขอถอนชื่อออกอ้างว่าเป็นมติพรรค เพราะถือเป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล
พรรคเพื่อไทยมีสิทธิจะรักษาคำพูดและยืนหยัดกับหลักการที่ตกลงไว้ที่เห็นว่าประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนพรรคอื่นก็มีสิทธิจะเปลี่ยนความคิดรายวันได้ตามกระแสซึ่งผมและเพื่อไทยไม่เคยไปต่อว่าหรือตำหนิ แต่พรรคอื่นก็ไม่มีสิทธิมาตำหนิหรือต่อว่าพรรคเพื่อไทยเช่นกัน หากจะเรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตยต้องเคารพสิทธิและความคิดผู้อื่นให้เป็นก่อน ไม่ใช่สร้างภาพหลอกต้มกองเชียร์ไปวันๆ
จากวันนั้นถึงวันนี้ จุดยืนที่เปลี่ยน 'วันชัย สอนศิริ' เปิดอก 4 สัญญาณจากจิตสำนึก ต้องแก้ รธน.