“พิพัฒน์” เตรียมชง Travel Bubble ให้นทท.เช็คอินพื้นที่แรก 14 วัน
ศบค.นัดประชุมเคาะ “ภูเก็ตโมเดล”
ในการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริการสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธาน ได้มีการหารือเกี่ยวกับความชัดเจนเรื่อง “ภูเก็ตโมเดล” ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ,สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ,นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต, นายอำเภอเกาะสมุย , สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย , และนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอเกาะสมุย เพื่อสรุปแนวทางในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปเงื่อนไข การปฏิบัติตัวในการเดินทางมายังประเทศไทยของชาวต่างชาติได้ เนื่องจากมีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่ที่สามารถสรุปได้ คือ ค่อนข้างชัดเจนว่า นักท่องเที่ยว 4 กลุ่มแรก ที่จะเสนอให้เดินทางเข้าไทยได้ คือ กลุ่ม Long Stay ,Thailand Second home , Elite card และ กลุ่มรักษาสุขภาพ ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อทั้งสิ้น ซึ่งที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กได้มอบหมายให้ผู้ประกอบการทำความเข้าใจกับคนที่พื้นที่ให้ใกล้ชิดขึ้น
นายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า ตอนนี้เกาะสมุยเตรียมความรับนักท่องเที่ยวควบคู่กับภูเก็ต เพราะเป็นพื้นที่นำร่องที่รัฐบาลจะเปิดให้ต่างชาติมาเที่ยวได้ โดยขณะนี้ได้เสนอ 20 โรงแรมเป็น Alternative State Quarantine หรือ ASQ โรงแรมกักตัวที่โรงแรมที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา
สำหรับประเทศที่มีการติดเชื้อต่ำ และเป็นกลุ่มเป้าหมายของสมุย คือ เยอรมัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ มณฑลเฉินตู ประเทศจีน แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่การพิจารณาของศบค. ซึ่งขณะนี้เองสมาคมฯก็กำลังเดินหน้าทำความเข้าใจคนในพื้นที่
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่าเบื้องต้น “ภูเก็ตโมเดล” แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ การดำเนินการผ่านบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด นักท่องเที่ยวต้องกักตัวเอง14 วันในโรงแรมที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล โดยจ่ายค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และ 2.ดำเนินการแบบทั่วไป หรือเป็น “ภูเก็ตโมเดล”กักตัวในพื้นที่ของโรงแรม หรือ area quarantine ซึ่งวันที่ 5-6 กันยายนนี้ ตนจะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อฟังความเห็นของประชาชนในภูเก็ต ว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากทุกฝ่ายเห็นด้วยก็น่าจะเริ่มดำเนินการได้ ส่วนจะอนุมัติให้ต่างชาติเข้ามาตามเป้าหมายวันที่ 1 ตุลาคมนี้ทันหรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูความพร้อมขอฟังนักท่องเที่ยวต่างชาติประเทศกลุ่มเป้าหมายด้วยว่ามีความพร้อมรับเงื่อนไขของไทยหรือไม่