ส่อง! จุดเที่ยว “นราธิวาส” ดินแดนใต้สุดปลายสยาม
นักวิชาการ ชี้ โครงการ “คนละครึ่ง” ต้องให้ หาบเร่แผงลอย-ร้านค้าขนาดเล็กก่อน
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2563 นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. ประเมินว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวตลอด 4 วัน คือ ตั้งแต่ 4-7 กันยายนที่ผ่านมา มีความคึกคักในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในจังหวัดสามารถขับรถยนต์ไป-กลับ ไม่เกิน 300 - 400 กิโลเมตร เช่น พื้นที่หัวหิน ชะอำ พัทยา เขาใหญ่ เป็นต้น โดยประเมินว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยน่าจะสูงถึง 80 % โดยตลอด 4 วันนี้ คาดการณ์จะมีเงินสะพัดทั่วไทยราว 8,000 ล้านบาท
ขณะที่ข่าวการติดเชื้อโควิด-19 ของดีเจในกรุงเทพมหานคร นายชัยรัตน์ มองว่ามีผลต่อการท่องเที่ยวเพียงเล็กน้อย เนื่องจากประชาชนวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว รวมถึงรัฐบาลก็มีการออกมาประกาศถึงรายละเอียดการติดเชื้อและสอบสวนโรคอย่างรวดเร็ว
ด้านนางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทย กล่าวถึงบรรยากาศท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวว่า โรงแรมในจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ อย่าง ในพัทยา หัวหิน มีอัตราการเข้าพักสูงมาก โดยเฉพาะโรงแรมที่ติดกับชายทะเลที่เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวไทยสูงถึง 100 % ส่วนปัจจัยเรื่องแรงกระตุ้นจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาลที่ช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินจาก 1,000 บาทต่อคน เป็น 2,000 บาท ช่วยส่งอานิสงค์ให้คนเดินทางมากน้อยเพียงใด / คุณศุภวรรณ ระบุว่า โครงการได้ผลในกลุ่มเป้าหมาย วัยทำงาน และวัยรุ่น แต่วัยกลางคนขึ้นไป ถึงวัยสูงอายุ ค่อนข้างมีปัญหาในขั้นตอนการใช้สิทธิ์เพราะ รู้สึกว่าซับซ้อน และอาจไม่คุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยี จึงแนะนำรัฐบาลอาจจะต้องปรับกฎเกณฑ์ หรือรูปแบบการใช้งานให้ง่ายขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกวัย
ททท.พร้อมอัดแคมเปญกระตุ้น “เที่ยววันธรรมดา”
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว 4 วันนี้ คาดว่าจะมีเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ 8,800 ล้านบาท ส่วนกลยุทธ์การท่องเที่ยวจากนี้ไป จะมุ่งเน้นให้ประชาชนท่องเที่ยวในวันธรรมดา รวมถึงปรับปรุงแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันให้มีความสะดวกและง่ายมากขึ้น ขณะเดียวกัน มองว่าการท่องเที่ยวในประเทศจากนี้ไปจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก หลังจากที่ประเทศไทยยังต้องชะลอการเดินทางเข้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปก่อน