นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่ง ว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาสถานที่อันทรงเกียรติ เมื่อวาน(9 ก.ย.)ก็ไปสภาฯ สถานที่อันทรงเกียรติมา ซึ่งได้ฟังข้อเสนอแล้วดีใจ เพราะหลายอย่างตรงกับที่รัฐบาลได้คิด และดำเนินการที่ผ่านมา มีคนรุ่นใหม่มาช่วยกันคิดสานต่อ รู้ว่าประเทศกำลังเผชิญกับปัญหา ทั้งโควิด-19 สังคมสูงวัย ความเปลี่ยนแปลงทางสภาวะอากาศโลก รวมถึงความมั่นคง ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่อง ทหาร หรือ ตำรวจ แต่รวมถึงประชาชน ที่ต้องสร้างความมั่นคงให้ตนเองด้วย รวมถึงเป็นความมั่นคงของชาติ
นายกฯ ถามลืมหรือยัง ทำไมต้องเข้ามา เตือน! แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ถ้ายังเอาชนะกัน
แนวทางของนักศึกษา 3 ร. คือ รูปธรรม รวดเร็ว ร่วมมือ ถือเป็นสิ่งที่สังคมต้องการมากที่สุด วันนี้เราหยุดอยู่กับที่ และคิดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว ที่ผ่านมา ความเป็นไทยได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก แต่หลายอย่างที่เป็นสิ่งดีงามกำลังถูกทำให้หายไป ซึ่งเป็นปัญหาต้องช่วยกันแก้ไข นั่นคือ ปัญหาทางสังคม
เพราะความรัก สามัคคี สำคัญที่สุดในเวลานี้ที่ต้องสร้างความเข้มแข็ง และช่วยกันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุอีกว่า “ความขัดแย้งเป็นสิ่งทำลายศักยภาพของประเทศโดยไม่รู้ตัว ถามว่าจะเอาชนะกันไปเพื่ออะไร อำนาจ หรือ ผลประโยชน์ใช่หรือไม่ และที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อ 2 อย่างงั้นหรอ อยากให้ก็คิดเอาเอง ทั้งนี้ไม่อยากแก้ตัว เพราะรู้ว่าที่เข้ามาทำเพื่อใคร เพื่ออะไร วันหน้าเป็นเรื่องของวันข้างหน้า สิ่งที่อยากเห็นคือทำให้ประเทศสงบ ยั่งยืน มีอนาคต “จะชนะบนซากปรักหักพังแล้วจะอยู่ต่ออย่างไร”
นอกจากนี้ ยังย้ำถึงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่าเพื่อบูรณาการกฎหมาย เมื่อสถานการณ์ขยายวงกว้าง ก็ต้องกำหนดมาตรการป้องกันใกล้เคียงกันในทุกพื้นที่ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ยอมรับว่าทำให้เศรษฐกิจแย่ แต่สิ่งแรกที่เราเลือกคือสุขภาพของประชาชน ซึ่งวันนี้สถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย ให้ธุรกิจเดินหน้า และระยะต่อไปจะดึงการท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา ทุกขั้นตอนได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว
'บิ๊กตู่' รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ไม่โต้ปม 'ลูกสาว' ยินดีได้คุยกลุ่มนศ. ฝากข้อความถึงผู้ชุุมนุม