ราชทัณฑ์ เตรียมปล่อย 5 แกนนำ นปช. ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พรุ่งนี้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมราชทัณฑ์ เตรียมปล่อย 5 แกนนำ นปช. หลังเข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พร้อมผู้ต้องขังทั่วประเทศ 27,000 ราย ล็อตแรก 15 ก.ย.

เปิดชื่อคนดัง-นักการเมือง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ-ลดโทษ

ร.10 โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ เพื่อให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) กรมราชทัณฑ์จะเริ่มทยอยปล่อยตัวผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว จำนวน 27,000 ราย ตามมาตรา 6 (1) และ (2) (จ)  โดยในจำนวนนี้มี นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายวรชัย เหมะ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนายพายัพ ปั้นเกตุ ซึ่งเป็นกลุ่มนักโทษคดีการเมืองและอดีตรัฐมนตรี โดยทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ผู้ต้องขังเตรียมการปล่อยตัวจะต้องเข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยในโครงการโคกหนองนา เป็นเวลา 15 วัน โดย นพ.เหวง นายวีระกานต์ และนายวรชัย ซึ่งเข้ารับการอบรมรุ่นแรกจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ส่วน ร.ต.ท.เชาวรินธร์ นายวิภูแถลง และนายพายัพ จะเข้ารับการอบรมรุ่นที่ 2 ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จากนั้นจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 30 ก.ย.

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าการพักโทษและปล่อยตัวแกนนำนปช. ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครหรือกลุ่มใดบ้างที่จะได้รับการพักโทษ เนื่องจากต้องรอทาง เรือนจำแต่ละแห่งรวบรวมรายชื่อผู้ต้องขัง เสนอมายังกรมราชทัณฑ์เพื่อกลั่นกรอง จากนั้นจะต้องส่งรายชื่อมายังคณะอนุกรรมการพักการลงโทษ ซึ่งปลัดกระทรวงยุติธรรมจะเป็นประธานพิจารณา ตอนนี้แต่ละเรือนจำก็ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ต้องขัง ในประเด็นของเวลา หรือโทษที่เหลือ เพราะมีการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2563 ที่ผ่านมา

ดังนั้นจะมีผู้ต้องขังที่ได้รับการปรับลดโทษตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีหลักเกณฑ์การลดโทษ การปล่อยตัว ทั้งนี้กลุ่มนักโทษการเมืองหรือ นปช. จะได้ปล่อยหรือไม่ ตนยังไม่ทราบความชัดเจน หากเข้าหลักเกณฑ์ตามเงื่อนไขที่กำหนดก็พักโทษและปล่อยตัว ติดกำไลอีเอ็มได้ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีขั้นตอนมีความเหมาะสม สังคมปลอดภัย

โดยพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 ตามมาตรา 6 (1) ผู้ต้องโทษจำคุก ไม่ว่าในกรณีความผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษจำคุกตามกำหนดโทษ ที่เหลือการรับโทษอยู่ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ส่วน (2) ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (จ) เป็นคนมีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ และจะต้องเหลือการรับโทษอยู่ไม่เกิน 3 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ หรือเป็นคนมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ