นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงานเตรียมออกประกาศให้น้ำมัน ให้ น้ำมันไบโอดีเซล B10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศ และให้เรียกชื่อว่า น้ำมันดีเซล มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป จากนั้นจะใช้เวลา 4-5 เดือน ให้ปั๊มน้ำมันทุกแห่ง เปลี่ยนป้ายชื่อผลิตภัณฑ์ที่ตู้จ่าย ป้ายโฆษณาต่างๆ ให้เป็นไปตามประกาศ จาก “ดีเซลB10” เป็น “ดีเซล”
“สนธิรัตน์” ดีเดย์ปี 63 ดันดีเซล B10 น้ำมันเกรดมาตรฐานปลอดฝุ่น ประหยัด!!
ขณะที่น้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในปัจจุบัน จะต้องเปลี่ยนชื่อเรียก เป็น ดีเซลB7
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจาก โควิด-19 จะไม่มีผลต่อนโยบายการส่งเสริมการใช้ดีเซล B10 ของกระทรวงพลังงาน โดยตัวเลขการใช้ดีเซลเริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้นในเดือน พ.ค.2563 แล้ว และจะเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่กรมธุรกิจพลังงานออกประกาศ ให้ไบโอดีเซลB10 เป็นน้ำมันดีเซลหลักของประเทศ
นอกจากนั้น จะมีส่วนสำคัญในการดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO ได้ปีละ 2.2 ล้านตัน และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ หรือ B100 ได้วันละ 6.5 ล้านลิตร ตามเป้าหมาย จากเดือนพ.ค. ที่ยอดใช้ B100 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.4 ล้านลิตรต่อวัน
สำหรับการใช้ไบโอดีเซลB20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์20% ในทุกลิตร) กระทรวงพลังงานจะมีการพิจารณายกเลิกการจำหน่ายในอนาคต ส่วนดีเซล B7 จะยังให้มีการจำหน่ายเป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถยนต์รุ่นเก่าๆ ที่ไม่สามารถเติมดีเซล B10 ได้
ขายแล้ว ดีเซล B10 ถูกกว่า ดีเซลธรรมดา 1 บาท/ลิตร
อ่านประกาศ ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. ๒๕๖๓
ขณะที่ รายชื่อรุ่นรถยนต์ที่ผู้ผลิตรถยนต์รับรอง ให้สามารถใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 สามารถเช็กได้ที่ กรมธุรกิจพลังงาน
ส่วน รายชื่อรุ่นรถยนต์ที่ผู้ผลิตรถยนต์รับรอง ให้สามารถใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 สามารถเช็กได้ที่ กรมธุรกิจพลังงาน เช่นกัน