ทรัมป์ไม่เชื่อโลกร้อนเป็นสาเหตุของไฟป่า


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ไฟป่าในสหรัฐเกิดขึ้นทุกปี ปีนี้มาเร็วและรุนแรงมากกว่าปีก่อนๆ นักวิทยาศาสตร์พบว่ามีความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดมาจากสภาวะโลกร้อน แต่ทรัมป์ไม่เชื่อ

รัฐบาลบราซิลส่งทหารดับไฟป่าแอมะซอน

“ทรัมป์” ชี้โลกร้อนมีประโยชน์ ช่วยบรรเทาหนาวจัดในสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟป่า เหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในรัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง และบรรดานักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change เป็นอีกปัจจัยเร่งที่ทำให้ไฟป่าลุกลามเป็นวงกว้าง

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีต้นเหตุมาจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นหรือสภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ทรัมป์ไม่เชื่อ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาพาสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ข้อตกลงปารีสมีเป้าหมายคือ ป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส  ตั้งแต่ปฏิวัติอุตสาหกรรม อุณหภูมิโลกเพิ่มมาแล้ว 1 องศาเพราะการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลอย่างหนักหน่วง ปัญหาก็คือถ้าไม่ควบคุม มันจะร้อนเพิ่มเป็น 2 องศาเซลเซียส และเมื่อนั้นโลกจะหายนะ ก็เลยเป็นที่มาของข้อตกลงปารีส ทำกับไว้เมื่อปี 2014 สมัยโอบามาเป็นผู้นำ

กว่าจะโน้มน้าวให้ผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกรายใหญาของโลกอย่างสหรัฐ จีน ออสเตรเลียให้ลงนามได้ก็เหนื่อยหนักหนาสาหัส ข้อตกลงปารีสจึงมักถูกยกว่าเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั้งโลกในที่สุดก็เห็นตรงกัน  แต่ทรัมป์ตัดสินใจถอนสหรัฐออกจากข้อตกลง  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่เชื่อว่าโลกร้อนจริง  อย่างตอนลงพื้นที่ดูปัญหาไฟป่า ผู้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนียพยายามบอกทรัมป์ว่า ต้องเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน เพราะมีวิทยาศาตร์ยืนยันว่า มันทำให้เกิดไฟป่า   แต่ทรัมป์กลับบอกว่า บางทีวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง

ส่วนจุดยืนของผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากเดโมเครตอยู่ตรงข้ามทรัมป์ โจ ไบเดน บอกว่า ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาจริงและปัญหาใหญ่ และชาวอเมริกันต้องการผู้นำที่เข้าใจเรื่องนี้

ส่วนความเสียหายของไฟป่าที่เกิดขึ้นในสหรัฐก็หนักหนาสาหัส  ภาพมุมสูงของพื้นที่บางส่วนในรัฐออริกอนที่ถูกไฟป่าเผาราบเป็นหน้ากลอง  อาคารบ้านเรือนกลายเป็นซากปรักหักพัง ทั้งเมืองอยู่ในสภาพร้าง เพราะคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ อากาศที่เย็นลงทำให้ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ส่วนนี่คือสภาพในป่าเอลโดราโดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ควันและเถ้าถ่านยังปกคลุมเต็มท้องฟ้า ที่นี่มีบ้านเรือนกว่า 4,000 หลัง ถูกไฟป่าเผาทำลาย

ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตันครั้งนี้เผาพื้นที่ไปกว่า 5 ล้านเอเคอร์ หรือ 12.6 ล้านไร่ สูงที่สุดในรอบ 2 ปี และยังคงไม่มอดดับสนิท มีคนอย่างน้อย 36 คนเสียชีวิต

หากจะให้เห็นภาพชัดว่าไฟป่าครั้งนี้รุนแรงและกินพื้นที่ใหญ่แค่ไหน เราสามารถวัดได้กับขนาดของพื้นที่เมืองใหญ่ต่างๆ พื้นที่ที่ถูกไฟเผาผลาญรวมกันแล้วใหญ่กว่ากรุงลอนดอน ใหญ่กว่านิวยอร์ก  ถ้ายังนึกไม่ออกคือ ใหญ่พอๆกับกรุงเทพ บวกรวมกับนครปฐม และชลบุรี ในทุกๆ ปีไฟป่าเผาทำลายพื้นที่ในสหรัฐฯ หลายล้านไร่ แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติทำให้ไฟป่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง ทุกประเทศมีส่วนทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น แต่อเมริกาเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2

อันดับที่ 1 คือจีน รองลงมาคืออินเดีย รัสเซีย​ ญี่ปุ่น เยอรมนี อิหร่าน เกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย และอินโดนีเซีย

ดังนั้นการถอนตัวออกจาก Paris Agreement ของทรัมป์ ย่อมส่งผลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และทำให้อำนาจของสหรัฐฯ ในเวทีโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ลดลง ในขณะที่จีนพยายามจะช่วงชิงพื้นที่ตรงนี้เพื่อแสดงตัวว่าจีนพยายามแก้ปัญหา เช่นเดียวกับเรื่องโควิด-19

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ