ด่วน! ธรรมศาสตร์ ออกประกาศ ไม่ให้ใช้พื้นที่ชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.
ผบช.น. ชี้ ผู้ชุมนุมทำผิด ไม่จับทันที เก็บภาพดำเนินการทีหลัง
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประกาศ งดการเรียน-การสอน และ งดการติดต่อกับมหาวิทยาลัย ระหว่าง 19-20 กันยายน 2563 รวมถึงจะมีการปิดทางเข้าออก นี่เป็นข้อความสำคัญที่อยู่ในเอกสารบันทึกข้อความ ที่ลงนามโดยรองศาสตราจารย์มุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในเอกสารให้เหตุผลการสั่งงดการเรียนการสอน ว่า เป็นเพราะ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มคณะประชาชนปลดแอก จะจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน 2563 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จึงขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ให้งดการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และงดการติตต่อ ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน
นอกจากนี้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งปกติ มีประตูทางเข้าออกรวม 4 ประตู คือ ฝั่ง สนามหลวง 2 ประตู ฝั่ง ท่าพระจันทร์ 1 ประตู และ ฝั่ง ท่าพระอาทิตย์ 1 ประตู ซึ่งในวันที่ 19 -20 กันยายน มหาวิทยาลัย จะเปิดให้เข้า-ออกประตูท่าพระอาทิตย์ เพียงประตูเดียว และจะต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานมหาวิทยาลัยหรือบัตรประจำตัวประชาชน
หลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สั่งงดการเรียนการสอน ก็มีความเคลื่อนไหวจากแกนนำชุมนุมคนสำคัญคือนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ซึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงนางเกศินี วิฑูรย์ชาติ อธิการบดีมหาวิทยลัยธรรมศาสตร์ ว่า "ในขณะที่มหาวิทยาลัยไม่อนุมัติให้เราใช้พื้นที่ทำกิจกรรม แต่กลับอนุญาตให้กลุ่มชายหัวเกรียนในเครื่องแบบกากีมาด้อม ๆ มอง ๆ ดูนักศึกษาในเขตมหาวิทยาลัย อาจารย์เกศินีมีจิตวิญญาณธรรมศาสตร์หลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่"
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ บอกว่า รู้สึกเสียใจ และมองว่าประกาศฉบับนี้ จะกลายเป็นตราบาปครั้งแรกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และอุดมการณ์ของมหาวิทยาลัย ที่ส่งเสริมการแสดงออกของนักศึกษา เป็นการปกป้องรัฐบาลโดยไม่คำนึงถึงนักศึกษาถือว่าเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง
นายวันมูหะมัดนอร์บอกว่า การชุมนุมข้างนอก มีความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงมากกว่า จึงอยากให้มหาวิทยาลัยเปลี่ยนความคิด เพราะมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ปลอดภัย และสง่างามต่อการแสดงออก
และวันนีัทีมข่าวพีพีทีวีพาไปย้อนดูเอกสารที่ศาสตราจารย์(พิเศษ) ชาญวิทย์เคยร่วมลงนามกับศาสตราจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเดือนสิงหาคม 2519 และผู้บริหารอีก 3 คน คือศาสตราจารย์เสน่ห์ จามริก ศาสตราจารย์นงเยาว์ ชัยเสรี และนายบรรลือ คงจันทร์ ออกแถลงการณ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฉบับที่ 5 ระบุว่าการกระทำของนักศึกษาชุมนุมวรรณศิลป์ องค์การนักศึกษา ที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของรองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาจัดกิจกรรมชุมนุมรำลึกวีรชน 21 สิงหาคม ในวันที่ 26 สิงหาคม 2519 ถือเป็นการจงใจหักหาญไม่ใยดีต่อคำสั่งและกฎเกณฑ์มหาวิทยาลัย เป็นการท้ายสิทธิและอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมหาวิทยาลัยจะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับการห้ามจัดกิจกรรมของนักศึกษาในช่วงนั้นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเพราะศาสตราจารย์ป่วยและผู้บริหารเห็นว่าสถานการณ์อาจรุนแรงได้ เพราะมีการปลุกระดมให้คนต่อต้านการเคลื่อนไหวการทำกิจกรรมต่างๆ ของนักศึกษามาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
และช่วงนั้นนักศึกษามักเป็นแกนนำการชุมนุมประท้วงทั้งด้านการเมือง และแรงงาน จนลุกลามไปหลายแห่งทั่วประเทศ จนเริ่มมีกระแสปราบปรามการเคลื่อนไหวของนักศึกษาอย่างเด็ดขาด และเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
ด้านนายสุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เผยถึงกรณีมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ระบุว่ามีการปลดป้ายเขตพระราชฐานออกจากสนามหวง อนุญาตใคนเดินผ่านท้องสนามหลวงได้อีกครั้งว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา กทม.โดยสำนักงานเขตพระนคร ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่นำป้ายอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ของประชาชน ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น. ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประกาศ กทม.เมื่อปี 2555 ที่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจได้ ตามเวลาที่กำหนด
นายสุรเดขระบุว่า แต่หากเข้าไปจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมกลุ่มคนต้องขออนุญาตจาก กทม. และพื้นที่ดังกล่าวอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้ 4 กรณี คือ 1.งานพระราชพิธี 2.งานพิธี 3.งานประจำปี และ 4.จัดงานหรือกิจกรรมของหน่วยงานราชการ
ส่วนการชุมนุมทางการเมือง ผู้อำนวยการเขตระบุว่าา ถ้ายึดตามประกาศดังกล่าว ยังไม่สามารถกระทำได้จนกว่าจะมีการขออนุญาตและได้รับอนุญาตจาก กทม. แต่จนถึงขณะยังไม่มีการร้องขอเข้ามาแต่อย่างใด และถ้าขอมา กทม.ก็อนุญาตไม่ได้ เพราะผิดกติกา