"สดศรี"ชี้ กกต.ต้องส่งเรื่อง 31 พรรคกู้เงิน ให้ศาลรธน.


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก หลัง กกต.มีมติเห็นชอบให้ยุติการตรวจสอบเรื่องการกู้เงินของ 31 พรรคการเมือง โดยไม่ส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เหมือนคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน ล่าสุดวันนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นเรื่องขอให้ กกต.พิจารณาใหม่แล้ว ขณะที่นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต.มองว่า กกต.ควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่

“สดศรี” เชื่อยุติวุ่นวาย กกต.ส่งศาลตีความปมคำนวณ ส.ส.

"สมชัย"เตือน กกต.อาจปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ส่งยุบ"อนาคตใหม่"

นางสดศรี สัตยธรรม อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง มองว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ไม่ส่งเรื่องการกู้ยืมเงินของ 31 พรรคการเมือง ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งทำให้สังคมตั้งคำถามได้ว่าใช้มาตรฐานเดียวกันการส่งเรื่องพรรคอนาคตใหม่ให้ศาลฯหรือไม่

นางสดศรีย้ำว่า กกต. ไม่ควรทำให้สังคมตั้งคำถามด้วยการตัดสินแทนศาล โดยนำคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่มาตีความว่ากู้ไม่เกิน 10 ล้านบาทไม่ผิด เพราะครั้งนั้นศาลไม่ได้ตั้งเป็นกฎเกณฑ์ เพียงแต่วินิจฉัยเป็นรายกรณี ซึ่งรายละเอียดการกู้ยืมเงินแต่ละพรรคการเมือง มีบริบทแตกต่างกัน จึงควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นางสดศรี เสนอว่า เมื่อ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว หากจะให้สังคมหมดข้อครหาและให้ความยุติธรรมกับพรรคอนาคตใหม่ ศาลรัฐธรรมนูญก็ควรตัดสินโดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนว่าเงินกู้คือเงินบริจาค เท่ากับว่าทั้ง 31 พรรคที่มีการกู้เงิน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ถือว่ามีความผิด ควรถูกตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่

ความเห็นของนางสดศรี สอดคล้องกับนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่เช้าวันนี้นำเอกสารคำร้องมายื่นเรื่องที่สำนักงาน กกต. ขอให้พิจารณาใหม่และส่งเรื่องการกู้ยืมเงินของ 31 พรรคการเมืองให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ โดยนายศรีสุวรรณ มองว่า แม้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ไม่ได้บัญญัติชัดเจนว่าห้ามการกู้ยืมสำหรับพรรคการเมือง แต่ก็ไม่ได้รับรองว่ากระทำได้ เมื่อไม่ได้รับรองก็ถือว่าทั้ง 31 พรรคเข้าข่ายผิดกฎหมายทั้งหมด

ส่วนกรณีเลขาธิการ กกต. บอกว่าไม่ฟ้องเพราะแต่ละพรรคกู้เงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อคน ต่อพรรค ต่อปี นั้น นายศรีสุวรรณระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่ามี 3 พรรคการเมืองในจำนวน 31 พรรคการเมือง มีรายงานการยืมเงินทดรองจ่ายจากกรรมการบริหารพรรค เกิน 10 ล้านบาท คือ พรรคภูมิใจไทย 30 ล้านบาท พรรคเพื่อไทย 13 ล้านบาท และพรรคประชากรไทย 12 ล้านบาท หาก กกต. จะใช้เหตุผลว่ากู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ไม่ผิด ก็ต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าทำไมจึงสั่งไม่ฟ้อง ไม่เช่นนั้นอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายศรีสุวรรณ ระบุอีกว่า หาก กกต.รับคำร้องไปแล้ว ไม่สามารถตอบข้อสงสัยได้ชัดเจน จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบ กกต. ด้วย

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ