ที่ดินภูเก็ต ยัน "ศรีพันวา" มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบที่ดิน “ศรีพันวา” พบเป็นโฉนด 2 แปลง และ น.ส.3 ก 6 แปลง เนื้อที่รวมกันกว่า 56 ไร่ ไม่พบอยู่ในที่ดินของรัฐทุกประเภท และการก่อสร้างมีการดำเนินการตามกฎหมาย

ททท.เตรียมเสนอยืด “เราเที่ยวด้วยกัน” ถึงสิ้นปี

'แบนศรีพันวา' สะเทือน! เปิดข้อมูลรีสอร์ทหรูของปลาวาฬ 'ประกันสังคม' หุ้นใหญ่ แจ้งงบขาดทุนต่อเนื่อง!

การตรวจสอบข้อมูล สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ทราบว่า ที่ตั้งของโรงแรมมีเอกสารสิทธิถูกต้อง ประกอบด้วย น.ส.3 ก จำนวน 6 แปลง เนื้อที่รวม 50 ไร่เศษ และโฉนด จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่  ซึ่งที่ดินทั้งหมดไม่ได้อยู่ในที่ดินของรัฐทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้หรืออุทยานฯ ตลอดจนไม่ทับซ้อนกับที่ดินของหน่วยงานใด

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามแหล่งข่าวในตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ระบุว่า ที่ดินที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าว เดิมเป็นของชาวบ้าน  ซึ่งเป็นแปลงเล็ก ๆ จำนวนหลายแปลง  มีเอกสารสิทธิ์ ทั้ง น.ส.3 และ น.ส.3 ก ก่อนที่บางแปลงจะนำไปออกโฉนดภายหลัง  ในส่วนของ “ศรีพันวา” มาซื้อเป็นลำดับที่ 3 และ 4 ซึ่งมีการดำเนินการเรื่องของเอกสารสิทธิมาก่อนหน้าแล้ว  ทราบว่าที่ผ่านมาก็เคยมีการขอให้ตรวจสอบมาแล้วหลายครั้ง

ส่วนกรณีคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ดินโรงแรมศรีพันวา ว่าอยู่ในเขตป่าหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่  โดยจะเชิญกรมที่ดิน กรมป่าไม้  ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าของโรงแรมศรีพันวา มาให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ขณะที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Khwanjai Khumban ออกมาให้ข้อมูลเรื่องที่ดินของศรีพันวา ว่าเดิมเป็นที่ของนายเสน คุ้มบ้าน และนายสันต์ คุ้มบ้าน ขายให้กับศรีพันวาตั้งแต่ ขวัญ อายุ 9 ขวบแล้วคะ เพราะเป็นที่พ่อขวัญเอง ขายไร่ละ 6 แสนบาท เป็นพื้นที่ด้านหน้าสุด 12 ไร่ ส่วนด้านหลังเป็นของญาติกัน มีโฉนดที่ดินพร้อม ยืนยันได้คะ และติดกับพื้นที่ พิพิธภันสัตว์น้ำ อาควาเรียม หากไม่มีโฉนดถูกต้อง โดนอาควาเรียมฟ้องมาก่อนจะขายนะคะ

ที่ทั้งหมดตรงแหลม เมื่อสมัยปู่ขวัญ เป็นของ ปู่แดงและต้นตะกูลคุ้มบ้าน เมื่อก่อน ถนน จะอยู่ด้านหลัง  แต่พอมีการขอที่ดินตรงนั้นเพื่อสร้าง ศูนย์วิจัยสัตว์น้ำ  ต้นตะกูลคุ้มบ้านเลยยกพื้นที่และถนนให้ด้านที่ติดทะเล เพื่อทำและเป็นประโยชน์ส่วนรวม

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า พรุ่งนี้(25ก.ย63) จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบที่มาของที่ดินโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต เพราะเชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกับ การตายของนายธวัชชัย อนุกูล พนักงานที่ดิน ที่เสียชีวิตปริศนาในห้องขังดีเอสไอเมื่อปี2559 จากการที่ออกโฉนดให้กับนายทุนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนั้น มี ศ.(พิเศษ)วิชา มหาคุณ เป็นประธานอนุกรรมการในการตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้เคยไปยื่นเรื่องต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) แต่เกรงว่าอำนาจของ บก.ปทส. อาจไม่พอและถูกผู้ที่อยู่เบื้องหลังดึงเรื่องไว้อีก จึงตัดสินใจมายื่นเรื่องให้ดีเอสไอเป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากมีอำนาจมากกว่า และคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลระดับสูง

ส่วนประเด็นที่จะตรวจสอบ นายวีระ ระบุว่า จะมุ่งประเด็นไปที่การได้มาของที่ดิน น.ส.3 ก ที่เริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2546 นั้นได้มาอย่างไร เนื่องจากไม่มีหมุดแสดงเขตที่ชัดเจน และเชื่อว่าเอกสารสิทธิ์อาจจะออกโดยมิชอบหรือไม่โดยเบื้องต้นนายวีระ มีข้อมูลว่า สถานะที่ดินในปี 2504 ขึ้นทะเบียนเป็นป่าไม้แห่งชาติ  ต่อมา ปี2512 เปลี่ยนเป็นป่าสงวนแห่งชาติ และในปี2537  เป็นที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ที่ให้เกษตรกรทำกิน ซึ่งครอบครองได้คนละแค่ไม่เกิน25ไร่เท่านั้น

ขณะที่ นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์ รัฐธรรมนูญไทย ให้ข้อมูลว่าเรื่องนี้ทางที่ดินภูเก็ต อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวได้เอกสารสิทธิ์ในการครอบครองเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลาดชัน ซึ่งทางคณะกรรมการป่าไม้แห่งชาติกำหนดไว้ว่า พื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน35% จะออกโฉนดให้กับผู้ครอบครองไม่ได้ และให้กลายเป็นพื้นที่ป่าไม้ หรือแม้แต่จะมีการออกโฉนดไปแล้วก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบว่าออกโดยชอบธรรมหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องกับผู้ตรวจการแผ่นดิน และป.ป.ช. เอาผิดกับพนักงานที่ดิน หาตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตและออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ