นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พูดถึงโรงพยาบาลและคลินิกทุจริตเงินบัตรทองของประชาชน โดยใช้วิธีแอบอ้างและสวมสิทธิผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนกับสถานพยาบาล นำเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปเบิกจ่ายกับ สปสช. และปลอมแปลงผลการตรวจ โดยไม่มีผู้ป่วยไปตรวจจริง รวมทั้งแก้ไข–ปรับเปลี่ยนข้อมูลร่างกายของผู้ป่วยให้เข้าเกณฑ์การตรวจโรค เช่น เบาหวาน และความดันโลหิตสูง โดยนายอนุทินเผยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสะเทือนขวัญ คิดไม่ถึงว่าจะโกงกันมากขนาดนี้
เช็ก 64 คลินิก-รพ. หลัง สปสช.ยกเลิกบัตรทอง กระทบผู้มีสิทธิ 8 แสนราย
ทั้งนี้ยืนยันว่าการขอประวัติการรักษา ต้องไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการ และเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของ สปสช.หากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของประชาชน สปสช.ต้องรับผิดชอบ เพราะประชาชนไม่ได้ผิดอะไร
นายอนุทิน เผยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องหาความจริงให้ได้ ไม่ใช่แค่เลิกรากันไป ซึ่งจะต้องดำเนินดคีกับคนทำผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขา สปสช. วันนี้ 24 ก.ย.2563 ได้มารายการเป็นเรื่องเป็นข่าว เปิดเผยว่า นอกจากคลินิกและโรงพยาบาล รวม 188 แห่ง แล้ว ต่อไป ก็จะมีการตรวจสอบเพิ่มอีก ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ส่วนคลินิกที่พบว่ามีหลักฐานการทุจริตแล้ว ก็จะมีการดำเนินคดีทั้งคดีอาญา และคดีแพ่งต่อไป ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้พูดชัดว่า จะไม่มีการประนีประนอมอย่างเด็ดขาด โดยคลินิกเหล่านี้ ก็จะไม่สามารถกลับมาทำสัญญากับ สปสช.ได้อีกด้วย
สปสช. ยันสิทธิรักษายังคงเดิม แม้ยกเลิกบัตรทอง 64 คลินิก-รพ.