"อนุชา" ยันตั้ง กมธ.ศึกษาไม่ได้ยื้อเวลาแก้รธน.


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันตั้งกมธ.ศึกษา ไม่ได้เป็นการยื้อเวลาแก้รัฐธรรมนูญ ปัดมีใบสั่งสิ่งที่ตัดสินใจคำนึงถึงประชาชนตลอดเวลา

 วันนี้ 25 ก.ย. 2563 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมศึกษารายละเอียดร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับ ไป 30 วัน โดยขออย่ามองว่าเป็นการซื้อเวลา  และถ้ามองแบบธรรมชาติจะไปซื้อทำไมแค่ 1 เดือน พร้อมอธิบายว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  จริง ๆ แล้ว ร่างทั้ง 6 ฉบับ ยังหาข้อยุติไม่ได้ เพราะวุฒิสภา ไม่ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะให้มาลงมติก็จะดูขัดกันอยู่ เมื่อย้อนกลับมาดูจุดหมายปลายทาง ก็คิดว่าจะมีการลงมติตามวิป 3 ฝ่ายที่ตกลงกัน แต่เมื่อเหตุการณ์มาถึงในสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่คาดฝันในสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิด การหาทางออกที่ดีที่สุดก็คือการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อที่ 121 วรรค 3

“ชวน” ยันไม่รู้มาก่อน ส.ว.- พปชร. เล่นเกมยื้อแก้ รธน.

"เมื่อเรามีโอกาสที่จะตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อที่จะพิจารณาร่าง เพื่อที่จะรับหลักการ หรือไม่รับหลักการ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้ว ถูกต้องตามครรลองครองธรรม และไม่ได้ใช้เวลานานที่จะพิจารณา และที่บอกว่าจะยื้อ จะคว่ำ ทำไมไม่คว่ำตั้งแต่วันนี้ หรือคว่ำวันไหน ๆ ก็ได้ ทำไมต้องไปอีกเดือนหนึ่ง และถ้าอีกเดือนหนึ่งเขาพิจารณาแล้วไม่คว่ำ  จะรับผิดชอบต่อคำพูดอย่างไร"

เมื่อถามว่าที่เสนอตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ได้คิดกันมาก่อนแล้วใช่หรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า ไม่ใช่ และเพิ่งรู้ตอนที่จะลงมติ ว่าเหตุการณ์ตอนนี้เป็นอย่างนี้ และเป็นอย่างนี้แล้วจะทำให้เกิด สิ่งที่ไม่ควรให้เกิดได้อย่างไร จึงเป็นเรื่องของรัฐสภาที่จะมีความยืดหยุ่น ในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมาเอาชนะคะคานกัน ในแค่เดือนกว่า ๆ หรือคุณต้องคิดแบบนี้ คิดแบบนั้น ผมคิดว่างบางครั้งการคิดในเชิงลบอย่างเดียวโดยคิดว่าตัวเองเป็นตัวตั้ง ก็จะไม่เกิดผลดีต่อรัฐสภา หรือผลดีต่อพี่น้องประชาชนที่อยากเห็นการแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้น ถ้าจะทะเลาะกันก่อนก็คิดว่าจะเกิดความลำบาก ในการพูดคุย

มติสภาฯ ตั้งกมธ. ศึกษา ยื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ

"แค่นี้ยังไม่ไว้ใจกัน แล้วเมื่อไหร่จะเข้าสู่โหมดความไว้วางใจกันในการช่วยกันแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง ส่วนเรื่องความจริงใจ ยืนยันว่าจริงใจแน่นอน และสิ่งที่บอกว่าไม่จริงใจ เป็นการคาดการณ์หรือไม่ ถ้าวันนั้นมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมาบอกว่ารัฐบาลจริงใจหรือเปล่า เขารับผิดชอบคำพูดเขาอย่างไร"

เมื่อถามย้ำว่า การที่รัฐสภารู้ล่วงหน้าไม่นาน ว่าจะตั้งกรรมาธิการร่วม จะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงใบสั่งหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า ใครจะมองในแง่ลบก็คือลบ ใครจะมองสร้างสรรค์ก็สร้างสรรค์ ยืนยันว่าสิ่งที่ตัดสินใจคำนึงถึงประชาชนตลอดเวลา  และอยากให้ทุกฝ่ายรอที่จะเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่รอไม่ได้ ไม่พอใจและนำการเมืองลงสู่ถนน 

เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่าก่อนถึงบทสรุปเรื่องนี้มีการคุยกัน 3 ฝ่ายหรือไม่ หรือตัดสินใจกันแค่วิปรัฐบาลกับวิปวุฒิสภา นายอนุชา ตอบว่า เดิมทีหารือกันแค่ 2 ฝ่ายระหว่างวิปรัฐบาล กับวิปฝ่ายค้านว่าการดำเนินการเป็นไปตามปกติ เพื่อจะลงมติรับหรือไม่รับหลักการ เป็นเอกสิทธิของสมาชิกรัฐสภาอยู่แล้ว

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เห็นต่างจากพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้การทำงานร่วมกันเกิดปัญหาหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า "เราไม่เคยเตี๊ยมกัน เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ต่างคนต่างมีความคิดเห็น มีอิสระในการทำตามระบอบ และไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย พร้อมย้ำว่าการทำงานไม่ได้มีมิติเดียว และสังคมมีความเห็นต่าง ถ้าสังคมไม่ยอมรับว่าความเห็นต่างมีความสำคัญความปรองดองก็ไม่เกิด

เมื่อถามว่าเป็นห่วงกระแสนอกสภาหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า ทุกคนห่วงอยู่แล้ว โดยเฉพาะประชาชนที่เขาอยากจะเห็น ผมเชื่อว่าการเมืองมีหลากหลายมิติ มีผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่าง นี่คือธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย และเรามีสภาไว้เพื่อวิเคราะห์ตัดสินความเห็นด้วยและเห็นต่างว่าจะไปในทิศทางใด พร้อมขอผู้ชุมนุมเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้คิดให้เป็นผลลบต่อสังคม และทุกคนก็อยากเห็นประชาธิปไตยที่ทุกคนคาดหวัง เราก็อยากเห็นสิ่งนั้น ก็ขอให้เดินไปสู่จุดนั้นร่วมกัน และเชื่อว่าทุกปัญหาจะมีทางออก

“ไพบูลย์” ซัดผู้ชุมนุมมานิดเดียว กดดันแก้รธน. หวังแย่งอำนาจรบ. โวรู้ทันหมด

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ