เปิดมุมลึก(ไม่)ลับ 'จักรทิพย์ ชัยจินดา' จารึก 5 ปี เก้าอี้มั่นคง ตำนาน ผบ.ตร. เผยความศรัทธา วาทะลาตำแหน่ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30ก.ย.63 พร้อมกับตำนาน ผลงาน ที่จารึก เปิดเรื่องราวความเชื่อความศรัทธ และปัจจัยหนุนสำคัญ เป็นที่มาเก้าอี้มั่นคง!

วันที่ 30 กันยายน 2563 ชื่อ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” หรือ “บิ๊กแป๊ะ” จะถูกจารึก ขึ้น Hall of fame สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

'จักรทิพย์' อำลาหน่วย ขอบคุณตชด. 5 ปี ร่วมพิทักษ์สถาบันฯฝากข้อคิด ถึงตำรวจทุกคน

เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นผู้นำสีกากี ที่อยู่ในตำแหน่ง “พิทักษ์ 1” ยาวนานที่สุด 5 ปี และได้เกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผบ.ตร.

วันนี้ วงการตำรวจ ขนานนาม “พิทักษ์ 1 กึ่งทศวรรษ”

สำหรับวงการตำรวจไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ที่ “ผู้นำตำรวจ” จะครองตำแหน่งได้ยาวนาน และได้เกษียณบนเก้าอี้ ผบ.ตร.

บนยอดพีรามิดขององค์กรตำรวจ อ่อนไหว ต้องเผชิญแรงเสียดทานอยู่ตลอดเวลา และเป็นตำแหน่งผู้นำเหล่าทัพที่ถูกเปลี่ยนบ่อยที่สุด!

ว่ากันว่าเก้าอี้ผบ.ตร. ยึดโยงแนบแน่นกับการเมือง

ขั้วการเมืองเปลี่ยนเมื่อใด ผบ.ตร.ถูกเปลี่ยนตัวเมื่อนั้น

ย้อนไป 2 ทศวรรษ หรือ 20 ปีที่ผ่านมา ผบ.ตร. น้อยคนนักจะอยู่ในตำแหน่งจนครบเกษียณอายุราชการ ย้อนดูมี พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และ พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา

นอกจากฝีมือ ผลงาน แล้วปฏิเสธไม่ได้ ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ อยู่ในตำแหน่งยาวนานจนสร้างประวัติศาสตร์ คือปัจจัยการเมือง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เจ้าของฉายามือประสาน 10 ทิศ ได้รับแต่งตั้งเป็นผบ.ตร. เมื่อปี 2558 ในสมัย รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนผ่านการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐคว้าชัย พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนากยกรัฐมนตรี และกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตัวเอง แม้ช่วงตลอดระยะเวลา 5 ปี เก้าอี้ผบ.ตร.ของจักรทิพย์ ถูกเขย่าเป็นระยะ เจ้าตัวมักปรารภว่า มีขบวนการเลื่อยขาเก้าอี้ ทว่า 5 ปี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนหยัด

'จักรทิพย์' เขินตอบ ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ปัดถูกทาบทาม ตร.สั่งทำแต่งตั้งรองผบก.-สว.แล้ว

อีกมุมหนึ่งในวงการทราบกันดีในวงการฯ ตั้งแต่เป็น มียศ ร.ต.ต. นายตำรวจที่ชื่อ “จักรทิพย์ ชัยจินดา” มีความเชื่อ ศรัทธาในพุทธคุณ

เป็นนักสะสมพระเครื่อง อันดับต้นๆของเมืองไทย “พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พิมพ์นะหัวเข่า เนื้อตะกั่ว และ พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า” เป็นพระเครื่องที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ พกติดตัวมานาน

เรื่อง(ไม่)ลับ ของ “บิ๊กแป๊ะ”เก้าอี้ทำงานในห้องทำงานส่วนตัว ใครเห็น เป็นต้องทัก "เก้าอี้ติดยันต์" เจ้าของเก้าอี้นำผ้ายันต์ หลายผืนผูกทับไว้ที่พนัก

เมื่อครั้งขึ้นเป็น ผบ.ตร. ในปี  2558 พล.ต.อ.จักรทิพย์ เคยเผยว่า ผ้ายันต์ที่เห็นว่ามาจาก หลายๆที่ ได้มา  มีของอรินทราชด้วย ของหลายๆที่ได้มาเลยเอามาไว้ตรงนี้...”

COP’S MAGAZINE เปิดห้องทำงาน “พล.ต.อ.จักรทิพย์” สมัย เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  ซึ่งไม่ต่างจากห้องทำงานผบ.ตร. นอกจากพระพุทธรูป ครุฑ พระพิฆเณศแล้ว  

“เก้าอี้นั่งทำงาน พนักพิงหลัง เต็มไปด้วยเสื้อยันต์จากเกจิอาจารย์ต่างๆคลุมซ้อนกันเป็นชั้น เริ่มจากเสื้อยันต์มหาจักรพรรดิเป็นภาพเขียนพระบรมสาทิสลักษณ์ พระนเรศวรถือดาบทรงม้าศึก อยู่บนเสื้อกั๊กสีขาวนวลเหมือนเสื้อนักรบโบราณ ฝีมือวาดภาพโดยศิลปินแห่งชาติ อังคาร กัลยาณพงศ์ 

อีกด้านเป็นลายแผ่นยันต์มหาจักรพรรดิภายใต้การกำกับของเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ(พระคเณศ)และมหาเทพเผด็จมาร(พระนารายณ์)โดยเสื้อยันต์นี้ ทำพิธีใหญ่โดยสมาคมนักศึกษาเก่า มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อปี 52 ยันต์ที่ทำขึ้นนี้ เป็นยันต์มหาจักรพรรดิ สืบทอดจากสำนักวัดประดู่โรงธรรมสมัยอยุธยา มาถึงหลวงพ่อกลั่น ต่อมาหลวงพ่ออั้น และตกทอดถึงหลวงพ่อเฉลิม เจ้าอาวาสวัดพระญาติการามองค์ปัจจุบัน ครั้งสุดท้ายสร้างเมื่อ พ.ศ.2488 หลวงพ่ออั้น มอบให้ทหารที่ไปรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา ว่ากันเป็นยันต์ที่มีฤทธานุภาพในทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ป้องกันปืน และระเบิด รวมไปถึงเมตตามหานิยม

นอกจากนี้ ยังมียันต์พญาเสือมหาลาภ ของหลวงพ่อจำเนียน วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ได้มาเมื่อครั้งเรียน วปอ.เมื่อปี 49 พุทธคุณหนักไปทางเมตตามหานิยม อีกผืนหนึ่ง เป็นยันต์พระอัญญาโกณฑัญญะ ศาลเจ้าพ่อนาคราช ต.จันเสน อ.ตาลี จ.นครสวรรค์

นักเขียนของ COP’S MAGAZINE ถามว่า เอามาแขวนไว้บนพนักพิงหลังทำไม บิ๊กแป๊ะตอบ แล้วจะให้ไปวางไว้ที่ไหน ! "

นอกจากนี้วงการพระเครื่องจัดงานประมูลพระเครื่องครั้งใหญ่ 'koการกุศลหลายครั้ง "บิ๊กแป๊ะ" ร่วมงาน และสร้างความฮือฮา

ในสมัย พล.ต.อ.สมยศ เป็นผบ.ตร. จัดงานประมูลพระเครื่อง หารายได้สร้างโรงพยาบาลตำรวจ จ.ยะลา พล.ต.อ.จักรทิพย์นำพระกริ่งญาณวิทยาคม หลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่เนื้อทองคำ สร้าง 168 องค์ ร่วมประมูล ราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท นายพงษ์ชัย ลิ้มทองสิทธิกุล  ประมูลไปที่ 7.5 ล้านบาท

ในงานเดียวกัน พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ นำ "มหาสังข์" ทักษิณาเวียนขวา  มูลค่าเริ่มต้นที่ 500,000 บาท เข้าประมูล  พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้ราคา 1.6 ล้านบาท แต่มีผู้ให้ราคา 2 ล้านบาท ทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยกมือยอมแพ้  

ในการประกวดพระและประมูล โดยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ปี 2559  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ถอดพระจากคอเป็นพระชัยวัฒน์ เนื้อทองคำ สมัยรัชกาลที่ 6 ให้ประมูล  ฮือฮา เมื่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองมนัส ที่ตอนนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ  ประมูลไปคล้องคอ ในราคา2.5ล้านบาท

เป็นอีกมุมความเชื่อ ความศรัทธา ของ “ผบ.ตร. จักรทิพย์ ชัยจินดา” ที่ในวงการตำรวจบางคนแซวว่าเป็นสายมูเตลู ที่มีความเชื่อ ศรัทธาในของขลัง

(ภาพเมื่อ กันยายน 2558)

(ภาพสมัยเป็น ผบช.น. - ขอบคุณเว็บไซต์ policenewsvarieties และ  COP’S MAGAZINE)

ตลอด 5 ปี พล.ต.อ.จักรทิพย์ จัดว่าเป็นผบ.ตร.ที่พูดน้อย แต่ต่อยหนัก ลงพื้นที่คลุกวงในทำคดีสำคัญ คลี่คลายจนสำเร็จได้รับคำชื่นชม เช่นคดีฆ่ายกครัว 8ศพที่จ.กระบี่ คดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏ คลี่คลายสถานการณ์วิกฤตในเหตุกราดยิงที่โคราช คดีผอ.กอล์ฟชิงทอง ช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมฟุตบอลหมูป่า ฯลฯ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ พูดน้อยแต่นานๆพูดออกสื่อที มีวาทะเด็ดเป็นระยะ

ล่าสุดทิ้งทวนก่อนเกษียณ เปรียบเทียบการชักจูงประชาชนนักเรียนนักศึกษา ในการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยฯลฯ ในปี 2563 ด้วยสุภาษิต พังเพย “เชือกจูงควาย น้ำลายจูงคน”

เป็นเจ้าของวาทะ ที่เหล่าตำรวจโดนใจ หยิบมาใช้เป็นแนวทางการเป็นผู้นำ

“ผู้บังคับบัญชาต้องทำตัวเสมือนปุ๋ย อยู่ที่ไหนหญ้างอกงาม อย่าทำตัวเป็นยาฆ่าแมลง อยู่ที่ไหนหญ้าตาย”

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เคยพูดไว้เมื่อดำรงตำแหน่งแรกๆ  “ผม...เป็นนักรักบี้ เมื่อลงเล่นแล้ว ก็เล่นเต็มที่ เจ็บก็ออกมา หมดเวลาก็กลับบ้าน ไม่รู้หมดเวลาเมื่อไหร่ อาจจะปีสองปี ไม่ยึดติด”  ชมรมรักบี้ฟุตบอล โรงเรียนนายร้อยตำรวจ นำประโยคนี้ติดประกาศไว้ด้วย

ในเดือนกันยายน 2558 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า  "ผมจะทำให้ตำรวจมีที่ยืนในสังคม  ผมไม่สนว่าใครพวกไหน ฝ่ายใคร  เมื่อผมรับผิดชอบ  ต้องให้โอกาสผม  ตำหนิที่ผม เมื่อผมวางตัวนักกีฬาแล้วต้องทำประตูให้ได้  เหมือนรักบี้ ..ยุคผมทำอะไรไม่ต้องยาก แค่ทำหน้าที่ในอาชีพตำรวจ  ประชาชนต้องนอนหลับ ...สถานะของผม เป็นทั้งผู้บังคับบัญชา และน้องของพี่ๆ เราต้องเคารพและเกรงใจกัน .... สุภาษิตจีนเขาว่า การอยู่รวมกันนานๆไปเรื่อยๆ จะแตกออก แตกกันไปนานๆจะมารวมกัน วันนี้ถึงเวลาที่ต้องมารวมกันแล้ว"

อันผู้นำนั้นมีภารกิจหลักอยู่เพียง สองประการคือ ต้องเป็นแกนแห่งความสามัคคี ของข้าราชการตำรวจอย่างหนึ่ง และต้องชี้ทิศนำทางที่ถูกต้องแก่ข้าราชการตำรวจไปบรรลุถึงอุดมการณ์อันสูงส่งอีกอย่างหนึ่ง ผู้นำคนใด กุมภารกิจสองประการนี้ได้ แล้วเพียรพยายามปฏิบัติจนมีความเป็นเอกภาพทั้งกายใจ หรือที่มักใช้เป็นสำนวนว่า “ร่วมแรง ร่วมใจ”  แล้ว  ความสำเร็จย่อมบังเกิดแก่ผู้นำผู้นั้น ในทางตรงกันข้าม หากผู้นำคนใด  ไม่ใส่ใจกุมภารกิจทั้งสองประการให้เป็นผลสำเร็จ หรือมัวแต่สาละวนอยู่แต่เรื่องเล็กจู้จี้จุกจิกอันไม่เป็นสาระแล้ว ย่อมประสบความล้มเหลว และจักต้องสุญเสียฐานะนำไปอย่างไม่ต้องสงสัย... นี่คือหลักของผม ..”บิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร. กล่าวก่อนเป็นผบ.ตร.อย่างเป็นทางการ 

ผ่านมา 5 ปีในตำแหน่งผบ.ตร.ย้อนดูผลงานที่ผ่านมา ประจักษ์ชัด ในบทบาท "ผู้นำ" !!

ในงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจจัดให้ เมื่อ 23 กันยายนที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวบน เวที "งานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา"

พร้อมส่งไม้ต่อให้ ผบ.ตร.คนต่อไป ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้เครดิต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 ผบ.ตร.คนที่ 12

ปิดตำนาน ในตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 11 ที่ชื่อ "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา"

จับตาดูเส้นทางต่อไป ของ "บิ๊กแป๊ะ" จะเข้าสู่ถนนสายการเมืองเต็มตัว ดังที่เคนปรากฏข่าวคราวก่อนหน้านี้หรือไม่!

เบื้องลึก ที่ 'ผบ.ตร.' ต้องเป็น 'สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข' เปิดประวัติ คอนเนกชั่น และสถิติใหม่

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ