สปสช. สั่ง ยกเลิกบัตรทองคลีนิก-รพ.เพิ่ม 108 แห่ง กระทบผู้ใช้สิทธิกว่า 2 ล้านคน มีผล 1 ต.ค. นี้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ล่าสุดตรวจสอบพบการเบิกจ่ายทุจริต 108 แห่งที่พบการทุจริตซึ่งทาง สปสช.จะทำการยกเลิกการเป็นคู่สัญญา มีผล 1 ต.ค. นี้ เป็นโรงพยาบาล 10 แห่ง  คลินิกอีก 98 แห่งซึ่งมีทั้งคลินิคชุมชนอบอุ่ม คลินิกอายุรกรรม และคลินิคทันตกรรม

เช็ก 64 คลินิก-รพ. หลัง สปสช.ยกเลิกบัตรทอง กระทบผู้มีสิทธิ 8 แสนราย

เปิดกลโกง “บัตรทอง” ตัดแต่งตัวเลข-บิดเบือนผลตรวจสุขภาพ

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ (สปสช.) เปิดแถลงข่าว กรณีการทุจริตการเบิกจ่ายงบบัตรทองล่าสุดตรวจสอบพบการเบิกจ่ายทุจริต 108 แห่งที่พบการทุจริตซึ่งทาง สปสช.จะทำการยกเลิกการเป็นคู่สัญญา มีผล 1 ต.ค. นี้ เป็นโรงพยาบาล 10 แห่ง  คลินิกอีก 98 แห่งซึ่งมีทั้งคลินิคชุมชนอบอุ่ม คลินิกอายุรกรรม และคลินิคทันตกรรม เป็นผลให้ขณะนี้ทางสปสช.ได้ทำการยกเลิกสัญญาหน่วยบริการไปแล้ว  190 แห่ง กระทบต่อผู้ใช้สิทธิ์กว่า  2 ล้านคนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

เบื้องต้น สปสช.ได้ดำเนินการเปิดให้ให้สิทธิสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถใช้บริการในหน่วยบริการของรัฐที่ใดก็ได้โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนหรือมีใบรักษาตัวส่งต่อ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องนอนโรงพยาบาล รักษาต่อเนื่อง  รอการผ่าตัด ล้างไต  ทำคลอด เข้ารับการรักษาได้ทันทีไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถใช้สิทธิเข้ารักษาในสถานพยาบาลสังกัดของ สปสช.ในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล  

กลุ่มที่รับยาเนื่องแต่ไม่มีการทำหัตถการ อยู่ระหว่างการประสานยัายสิทธิ เบื้องต้นให้เข้ารับการรักษาศูนย์บริการสาธารณาสุขใกล้บ้าน ย้ำว่าไม่ต้องไปลงทะเบียนที่ศูนย์หรือหน่วยบริการใดๆ สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐที่สะดวกได้เลยในช่วง 2-3 เดือนนี้

นพ.การุณ  คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นพบว่าทำเป็นขบวนการ และมีลักษณะการกระทำความผิดที่คล้ายกัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน สปสช.จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการยกเลิกการเป็นคู้สัญญา เพื่อประโยชน์ของประชาชน และเพื่อการเบิกจ่ายงบประมาณที่ถูกต้องเป็นธรรม ย้ำว่าประชาชนยังคงสิทธิในการรักษาอยู่

ทั้งนี้หน่วยบริการประจำ หรือหน่วยบริการปฐมภูมิ หลายแห่งยังคงเปิดให้บริการอยู่ขอให้ประชาชนส่วนที่ไม่กระทบเข้ารับการรักษาในหน่วยบริการที่ระบุก่อนเพื่อลดความแออัดในสถานพยาบาล สำหรับการยกเลิกสถานพยาบาลในกลุ่มที่ 3 ประมาณ 108 แห่ง กระทบต่อประชาชน 2-3 แสน ที่รักษาต่อเนื่อง แต่ทาง สปสช.ได้เปิดสิทธิพิเศษให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบแล้วในขณะนี้ที่จะสามารถเข้ารับการตรวจรักษายัฃสถานพยาบาลขอรัฐใกล้บ้านได้

ส่วนของประวัติการรักษาของผู้ป่วยทาง สปสช.ได้เปิดศูนย์ข้อมูลให้ทางหน่วยบริการต่างในขณะสามารถเข้าใช้ข้อมูลได้ เลย อีกส่วนที่ สปสช.เร่งดำเนินการคือการเปิดรับคู่สัญญารายใหม่เข้ามา โดยการปรับลดขั้นตอนการประเมิน คาดจะเสร็จในเดือนพฤศจิกายน  นี้

นายจิราวุสฐ์   สุขได้พึ่ง ประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวถึงการในส่วนการดำเนินคดี แจ้งความเอาผิดทางอาญาครบทุกสถานพยาบาล ทั้ง 3 รอบ  โดยจะดำเนินการกับ -ผู้ประกอบรับใบอนุญาติ  -ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล(แพทย์) -ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจและทำเอกสารเบิกจ่าย พบว่าคลินิกเหล่านี้ทำสัญญาเป็นหน่วยบริการ ซึ่งมีการระบุชัดในข้อสัญญาว่าหากพบการทุจริต สปสช. มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทุกเมื่อ

ทั้งนี้ตรวจสอบเป็นคบินิคเอกชน และสถานพยาบาลเอกชน ทั่งหมด ที่อยู่ในสังกัด กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่ได้ดำเนินการประสานข้อมูลเพื่อให้ทาง สบส.ดำเนินคดีกับสถานพยาบาลที่ทุจริตด้วย

เมื่อถามถึงกระบวนการตรวจสอบเป็น การตรวจสอบเฉพาะ ในปีงบประมาณ 2562 เท่านั้น ซึ่งต้องมีการ ตรวจสอบย้อนหลังอีก นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวทิ้งท้ายเรื่องสำคัญขณะนี้คือทางสปสช.จะเร่งเข้าไปดูแล ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดของประชาชน พร้อมการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ในการยกเลิกสิทธิ์คู่สัญญาของสถานพยาบาลไม่กระทบต่อสิทธิ์ของประชาชน ย้ำว่าทุกคนที่ได้รับผลกระทบสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนเข้าไปแสดงอย่างสถานพยาบาลของรัฐหรือสถานพยาบาลที่สังกัดสอปอสอชอเพื่อเข้ารับการรักษาได้โดยไม่ต้องมีการแจ้งขึ้นทะเบียนล่วงหน้าหากมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน 025540500 หรือ 1330 ตลอด 24 ชม.

“พลภูมิ” จี้ สปสช. หาคลินิก-สถานบริการใหม่ รองรับปชช.

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ