ก่อนหน้านี้ แอมะซอน (Amazon) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซระดับโลกต่างปฏิเสธที่จะออกมาให้ข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงานบริษัท แม้จะถูกกลุ่มแรงงาน นักการเมือง และเจ้าหน้าที่กำกับดูแล ออกมากดดันหลายครั้ง รวมถึงมีข้อมูลออกมาเป็นระยะถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในคลังสินค้า
โดย แอมะซอน อ้างเพียงว่า บริษัทดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสรวมถึงการ "เปลี่ยนแปลงกระบวนการ" มากกว่า 150 ขั้นตอนในการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
แต่ล่าสุด แอมะซอนได้เปิดเผยผ่านทางบล็อกของบริษัทว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. ถึง 19 ก.ย. มีพนักงาน 19,816 ราย ที่ยืนยันแล้วหรือคาดว่าติดโรคโควิด-19 จากพนักงานทั้งหมดประมาณ 1.37 ล้านคนของอะเมซอนและ Whole Foods Market ทั่วสหรัฐ
แอมะซอนอ้างว่าจำนวนดังกล่าวเมื่อเทียบกับอัตราผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมด จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ มีไม่ถึง 42% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่ทางบริษัทคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผย ความปลอดภัยในคลังสินค้ากลายเป็นประเด็นที่ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มงวด เนื่องจากธุรกิจของแอมะซอนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่โควิด-19 มีการแพร่ระบาด จนส่งผลทำให้ เจฟฟ์ เบโซส์ ซีอีโอ แอมะซอนกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อโคโรนาไวรัส (โควิด-19) เกิดขึ้นในขณะที่แอมะซอน เตรียมพร้อมแคมเปญ Prime Day ประจำปี ในวันที่ 13 และ 14 ตุลาคมนี้ ซึ่งแอมะซอนประกาศรับพนักงานเพิ่มอีก 100,000 คน เมื่อเดือนที่แล้วและได้รับการตอบสนองให้ทันที
แอมะซอนระบุในบล็อกว่า การเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าบริษัทอื่นๆ ต่างเปิดเผยข้อมูลเช่นกัน ซึ่งเมื่อมีข้อมูลที่กว้างขึ้น ก็จะช่วยให้บริษัทสามารถเปรียบเทียบความคืบหน้า และแบ่งปันวิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรับมือกับโรคโควิด-19 ในทุกธุรกิจและอุตสาหกรรม
แอมะซอนเพิ่มพนง. 1 แสนคน หลังโควิด-19 ดันช้อปออนไลน์พุ่ง