บทสรุป คดี 'น้องชมพู่' ผบ.ตร.นัดเปิดกุญแจดอกสุดท้าย เคลียร์ปริศนาไขการตาย คาดชงเรื่องอัยการ!
144 วัน คดี "น้องชมพู่" ย้อนคำอธิบายจากผบ.ตร.ก่อนสรุปปิดฉากคดี
ตำรวจปัดขู่บังคับสารภาพ เค้นชายในหมู่บ้าน "น้องชมพู่" ติงสื่อ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การสืบสวนสอบสวนของชุดสืบสวน พบว่าผู้ต้องสงสัยคนนี้ ซึ่งตำรวจยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องสงสัยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินกับพ่อและแม่ของน้องชมพู่ เป็นผู้นำน้องชมพู่ ออกไปจากการดูแลของครอบครัว แต่ไม่ได้ตั้งใจฆาตกรรม แต่การนำตัวไปก็เป็นเหตุให้น้องชมพู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า น้องชมพู่เป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้กลัว มีบุคคลที่สามารถอุ้มและพาไปไหนต่อไหนได้ 4 คน คือ พ่อแม่ พี่สาว และผู้ต้องสงสัยรายนี้ เท่านั้น เพราะหากเป็นคนอื่นน้องชมพู่ จะร้องไห้และไม่ไปด้วย พร้อมมีข้อมูลว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้การเท็จ หลายประเด็น แต่ตำรวจก็ยังไม่มีหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล พยานแวดล้อม ที่จะเอาผิดได้
จากการสอบสวน พยานทั้งหมดพบว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ บอกกับพระในวัดแห่งหนึ่งว่าไปรับช้า เพราะมีเด็กหาย แต่เมื่อนำมาสอบปากคำผู้ต้องสงสัยรายนี้กลับให้การว่า ทราบว่าเด็กหายขณะไปรับพระ และยังให้การว่ารู้เรื่องเด็กหาย เพราะภรรยาโทรมาบอก แต่โดยข้อเท็จจริงพบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ ไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้เป็นการส่วนตัว แต่ใช้ร่วมกับภรรยาตลอด
แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ มีลักษณะอาการสองบุคลิก หรือ ไบโพลาร์ แต่พยานหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยไม่ได้ตั้งใจฆาตกรรมน้องชมพู่
ขณะที่เมื่อเช้าที่ผ่านมานาย ไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เตรียมเดินทางไปที่กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังแถลงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ ได้เปิดเผยว่า อยากให้ ตำรวจ ชี้แจงว่าใครที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตนถูกแม่น้องชมพู่สงสัยทำให้สังคมได้ตัดสินตนไปแล้ว
ด้าน นายชาญ หลาบโพธิ์ คุณตาของน้องชมพู่ อ ระบุว่า อยากให้ตำรวจแถลงตัดประเด็นผู้ต้องสงสัยออก เพื่อที่ครอบครัวจะได้กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม
ขณะที่ พ่อแม่น้องชมพู่ เมื่อเช้าที่ผ่านได้เดินทางไปที่วัดเพื่อทำบุญวันออกพรรษาที่วัดบ้านกกกอก