เปิดหลักฐานใหม่! พบ“พี่เลี้ยงอิง”ใช้ถุงดำคลุมตัว“น้องวิน” ส่วน“ครูแพรว” ล็อกคอเอาถุงดำขู่ซ้ำ!
คุรุสภา รับ ตรวจสอบใบวิชาชีพครูไทย-ต่างชาติไม่ทั่วถึง เหตุมีโรงเรียนจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2563 ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น อนุบาล 1 ห้อง A ของเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ หลังพบลูกมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยมีอาการหวาดกลัว และทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว จึงไปขอตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่โรงเรียน และพบว่าลูกของตนถูกพี่เลี้ยงชื่อกิ้ฟทำร้ายร่างกายถึงสามวันติดต่อกัน ระหว่างวันที่ 21 - 23 กันยายนที่ผ่านมา โดยทางด้าน ผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นเด็กร่าเริงกลับมีอาการหวาดผวา โดยเฉพาะเวลาที่ ตนและสามีแกล้งจะทำโทษ หรือ จะโอบกอด ลูกชายจะสะดุ้งและเอามือขึ้นมาป้องกันตัวเองลักษณะตั้งการ์ด และมีการทำร้ายคนอื่นกลับในลักษณะที่ใช้กำปั้นทุบ จากเดิมที่ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนี้ จึงได้ขอตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดภายในห้องเรียนของวันที่ 22 กันยายน เห็นว่าลูกชายพยายามวิ่งหนีพี่เลี้ยง ชื่อ กิ๊ฟ ทันทีขณะที่เล่นอยู่กับเพื่อน จึงแปลกใจว่าทำไมลูกถึงตกใจกลัวพี่เลี้ยงกิ๊ฟ จึงได้ย้อนไปดูวันอื่น ๆ จนพบว่าวันที่ 21 กันยายน ช่วง 9 โมงเช้า ลูกชายถูก พี่เลี้ยงกิ๊ฟ ตีที่แขน 2 ครั้ง และใช้สิ่งของบางอย่างคล้ายดินสอ จิ้มไปที่แขน จากนั้นช่วงบ่ายก็เดินมายืนข้างลูกชาย พร้อมใช้กำปั้นทุบไปที่หลังตามภาพ และยังพบอีกว่า ในวันที่ 23 กันยายน ช่วงบ่าย พี่เลี้ยงคนเดิมก็ใช้มือฟาดไปที่หลังลูกชายอีกครั้ง
ผู้ปกครอง กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ทั้งหมด ตนมองว่าหากลูกของตัวเองดื้อหรือทำผิดแล้วจะมีการลงโทษก็ไม่ว่า แต่ไม่ควรจะรุนแรงกับเด็กขนาดนี้ คนเป็นแม่เมื่อเห็นแบบนี้ยอมรับว่าโกรธและรับไม่ได้ หลังจากนี้ตั้งใจว่าจะพาลูกและหลานรวม 3 คน ที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ ย้ายออกทั้งหมด และตั้งแต่ทราบเรื่องก็ไม่ได้ส่งลูกชายไปโรงเรียนอีก และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
เปิดข้อมูล พบ ครูสารสาสน์ ทำร้ายเด็กรวม 12 คน
ขณะที่ พลตำรวจตรี ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนนทบุรี ได้เรียกประชุมชุดทำงานคลี่คลายคดี โดยมีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ ตัวแทนจากคุรุสภา เข้าร่วมรับฟังความคืบหน้าในคดีนี้ด้วย ซึ่งหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.ไพศาล เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถสรุปเหตุการณ์ครูและพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายนักเรียนในชั้นอนุบาล 1 และเนิร์สเซอรี ได้ 50 กว่าเหตุการณ์ แต่มีนักเรียนที่ถูกกระทำอย่างชัดเจน 30 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีหลายคนที่ถูกกระทำซ้ำ โดยแบ่งเป็น ชั้นอนุบาล 1 ห้องB 2 ราย ห้อง C 4 ราย ห้อง E 13 ราย และ ห้อง ABP (อาเซียน) 5 ราย ขณะที่ในชั้นเนิร์สเซอรี ห้อง A มีจำนวน 6 ราย
โดยพบครูและพี่เลี้ยงที่ก่อเหตุเบื้องต้นมีทั้งหมด 11 คน ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 3 คน เหลืออีก 8 คน ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว โดยแจ้งให้เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากผู้ก่อเหตุคนใดไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่สอง และหากยังไม่มาอีก ก็จะขอศาลออกหมายจับตามขั้นตอน ซึ่งความผิดจะเข้าข่ายข้อหา ทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรม และ กักขังหน่วงเหนี่ยว ขณะที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่คุรุสภา ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่วนในจำนวนผู้ก่อเหตุ 11 คนนั้น จะมีครู 3 คน ที่คุรุสภาเตรียมเอาผิดตาม พรบ. ระเบียบข้าราชการครูฯ ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ส่วนการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดของโรงเรียน พล.ต.ต.ไพศาล เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบเกือบครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่สามารถตรวจย้อนไปได้ถึงแค่วันที่ 16 กันยายน เท่านั้น เพราะทางโรงเรียนเพิ่งจะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในวันดังกล่าว จึงไม่อาจระบุได้ว่าการทำร้ายร่างกายเด็กเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่
