หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ในการลงคะแนนเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนที่กำลังจะมาถึง การประเมินจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงเตือนว่า มหาอำนาจต่างชาติอาจใช้ “อิทธิพลแอบแฝงและเปิดเผย” เพื่อพยายามโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหรัฐฯ ตามจุดประสงค์ของแต่ละชาติ โดย 3 ประเทศที่ต้องจับตาคือ รัสเซีย จีน และอิหร่าน ทั้งนี้ หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ มองว่า 3 ประเทศนี้ไม่น่าจะร่วมมือกัน เนื่องจากต่างมีมุมมอง เป้าหมาย และขีดความสามารถแตกต่างกัน
“ทรัมป์” ติดโควิด-19 ตัวแปรใหม่เลือกตั้งสหรัฐฯ
สุดโกลาหล! “ทรัมป์ - ไบเดน” ประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกบนเวทีดีเบต
ดีเบต “ทรัมป์” VS “ไบเดน” ศึกยกแรกชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ คนที่ 46
รัสเซีย
รัสเซียมีบทบาทขโมยซีนในการเลือกตั้งสหรัฐปี 2016 โดย ณ เวลานั้น หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ เชื่อว่า รัสเซียพยายามที่จะโยกคะแนนไปที่ฝั่งของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจะชี้ให้เห็นการประชุมระหว่างทีมงานทรัมป์และเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย การโจมตีทางไซเบอร์ต่อการรณรงค์หาเสียงของฮิลลารี คลินตันและพรรคเดโมแครต การกำหนดเป้าหมายฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งของแต่ละรัฐ และความพยายามที่จะขยายเนื้อหาเท็จหรือลำเอียงผ่านช่องทางออนไลน์
สำหรับปี 2020 คราวนี้ เพียงเปลี่ยนฮิลลารี คลินตัน เป็น โจ ไบเดน ในการประเมินของ วิลเลียม เอวานีนา (William Evanina) หัวหน้าศูนย์ต่อต้านข่าวกรองและความมั่นคงแห่งชาติ (NCSC) กล่าวว่า รัสเซียกำลัง "ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อดิสเครดิตอดีตรองประธานาธิบดีไบเดน"
ขณะที่ คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) ผู้อำนวยการเอฟบีไอ มองว่า รัสเซียไม่เคยหยุดแทรกแซงสหรัฐฯ
รัสเซียปฏิเสธการแทรกแซงการเลือกตั้งในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โฆษกของทำเนียบเครมลินบอกว่า การกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเมืองต่างประเทศไม่เป็นความจริง
จีน
ความเห็นจากฝ่ายบริหารของทรัมป์โต้แย้งว่าเป็นจีนมากกว่ารัสเซียที่เป็นภัยคุกคามหลักต่อการเลือกตั้งประธานาธบิดีสหรัฐฯ ในปีนี้
ขณะที่เอวานีนาประเมินว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ เชื่อว่า "จีนจะชอบใจกว่าหากประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากจีนอาจมองว่าเป็นตัวแปรที่เอาแน่เอานอนไม่ได้"
"จีนกำลังขยายอิทธิพลความพยายามในการกำหนดสภาพแวดล้อมนโยบายในสหรัฐฯ โดยกดดันบุคคลทางการเมืองที่มองว่าขัดผลประโยชน์ของจีน และตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์จีน" เขากล่าว
“จีนพร้อมที่จะทำอะไรมากแค่ไหนนั้นยังไม่ชัดเจน จีนจะยังคงชั่งน้ำหนักความเสี่ยงและผลประโยชน์ของการดำเนินการเชิงรุก" เอวานีนากล่าว
ด้านจีนเคยออกมาปฏิเสธที่จะแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น โดยกล่าวว่า “ไม่สนใจหรือไม่เต็มใจที่จะทำ”
อิหร่าน
เอวานีนากล่าวว่า กรุงเตหะรานไม่ต้องการให้มีวาระที่ 2 ของประธานาธิบดีทรัมป์ เพราะจะส่งผลให้ "เกิดความกดดันของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านในความพยายามที่จะปลุกระดมการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง"
เขากล่าวว่า ความพยายามของอิหร่านจะมุ่งเน้นไปที่ "อิทธิพลทางออนไลน์ เช่น การแพร่กระจายข้อมูลที่บิดเบือนบนโซเชียลมีเดีย และการหมุนเวียนเนื้อหาต่อต้านสหรัฐฯ"
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคอมพิวเตอร์ไมโครซอฟต์กล่าวว่า แฮกเกอร์ที่มีความสัมพันธ์กับรัสเซีย จีน และอิหร่าน กำลังสำรองข้อกล่าวหาบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ
สื่อในอิหร่านกล่าวว่า กลุ่มชาวอิหร่านที่รู้จักกันในชื่อ “ฟอสฟอรัส” พยายามเข้าถึงบัญชีของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่หาเสียงของทรัมป์ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ
ซาอีด คาติบซาเดห์ (Saeed Khatibzadeh) โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านเรียกรายงานของไมโครซอฟต์ว่า "เป็นเรื่องตลก" และบอกว่า "อิหร่านไม่กังวลว่าใครจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในทำเนียบขาว"
ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังใกล้เข้ามา และท้ายที่สุดแล้ว ใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของมหาอำนาจตะวันตกแห่งนี้
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก AFP / Shutterstock