ป.ป.ท. บุกรวบ 2 ข้าราชการกระทรวงพลังงาน เรียกรับส่วย
ก.พลังงาน สั่งออกจากราชการ-สอบวินัยร้ายแรง 2 ขรก.เรียกรับส่วย
ความคืบหน้ากรณี ป.ป.ท. บุกเข้าจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ของกรมธุรกิจพลังงาน ที่มีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ประกันตัวข้าราชการทั้ง 2 คนแล้ว โดยตีวงเงินประกันคนละ 150,000 บาท ขณะเดียวกันทางตำรวจได้หลักฐานเป็นคลิปที่กำลังเจรจากับผู้เสียหาย ในการเรียกรับผลประโยชน์
นี่เป็นคลิปวีดีโอ ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งหลักฐานสำคัญขณะที่ นายจักรชัย ตั้งปรัชญากูล ตำแหน่งวิศวกรชำนาญการพิเศษ และนายฐาปณพงษ์ พาสนพัฒน์ ตำแหน่งวิศวกรชำนาญการ สังกัดกองความปลอดภัยธุรกิจน้ำมัน กรมธุรกิจพลังงาน กำลังนั่งเจรจาอยู่กับผู้เสียหาย และมีการเรียกรับเงินผลประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐานได้อย่างชัดเจน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเข้าทำการจับกุมตัวข้าราชการทั้ง 2คน ที่บริเวณลานจอดรถ ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังที่ สน.บางซื่อ โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้เสียหาย ด้านธุรกิจน้ำมัน เข้าแจ้งความว่าถูกเรียกรับผลประโยชน์ อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการสำหรับการยื่นเรื่องขอติดตั้งสายล่อฟ้าเป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ
ด้านพันตำรวจเอก กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนมีอำนาจเพียงรับคุมตัวผู้ต้องหาไว้ชั่วคราว แต่ไม่มีอำนาจในการสอบสวนเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการ
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกการจับกุม และอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวไป โดยตีวงเงินประกันคนละ 150,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งบันทึกการจับกุมและของกลางที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อเตรียมส่งให้กับทาง ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการต่อไป
ขณะที่ พันตำรวจเอก ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ให้ข้อมูลว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจาก ป.ป.ท. เพื่อให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด ก่อนส่งตัวให้ สน.บางซื่อ รับไปดำเนินการควบคุมตัวในเบื้องต้น โดยสามารถควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง จากนั้นตามขั้นตอนแล้วก็จะต้องส่งตัวไปยัง ป.ป.ช. พิจารณาไต่สวนชี้มูลความผิดต่อไป