เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2563 ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีเก้งเผือก 5 ตัว กระจายตามจุดต่าง ๆ เช่น ที่คอกเก้งแห่งนี้ มีอยู่ 1 ตัว เลี้ยงรวมกับเก้งแดงปกติ การเลี้ยงดูเก้งเผือกกับเก้งทั่วไปไม่มีอะไรต่างกัน เพียงแต่สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ สัตว์เลื้อยคลานที่อาจจะเข้ามาทำอันตราย ทำให้เจ้าหน้าสวนสัตว์ ต้องติดตาข่ายกั้นล้อมรอบคอกให้ ซึ่งงานประจำของพนักงานเลี้ยงสัตว์ในจุดนี้ นอกจากจะคอยให้อาหารและตรวจดูเก้งแต่ละตัวว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือไม่ ยังต้องคอยตรวจสอบตาข่ายที่ถูกขึงไว้รอบคอกเก้งไม่ให้มีรอยขาด ที่อาจทำให้ งู หรือตัวเงินตัวทอง เข้ามาทำอันตรายเก้งได้
"ภรรยาหมอภูวดล” เผยปมการเมืองภายในองค์การสวนสัตว์ฯ
“วราวุธ” สั่งสอบ สวนสัตว์ทั่วประเทศ หากพบเอี่ยวค้าสัตว์ป่า เตรียมเอาผิด
โดยหากมีเก้งป่วยหรือตาย พนักงานเลี้ยงสัตว์คนนี้จะต้องแจ้งหัวหน้าจุดพร้อมเขียนบันทึกรายงาน ซึ่งหัวหน้าจุดจะรายงานต่อไปยังหัวหน้างาน หัวหน้าฝ่าย จนถึงผู้อำนวยการสวนสัตว์ตามลำดับชั้น ทุกขั้นตอนต้องมีบันทึกรายงานเป็นหลักฐาน หากสัตว์ตาย สัตวแพทย์จะไปตรวจดูซากและบันทึกภาพไว้ ก่อนนำไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายและทำบันทึกประวัติ จากนั้นจึงนำซากสัตว์เข้าเตาเผาทำลาย ซึ่งเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงประชากรสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เกิด สัตว์ป่วย หรือสัตว์ตาย จะต้องรวบรวมส่งให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทุก ๆ เดือน นี่เป็นกระบวนการปกติที่สวนสัตว์ทุกแห่งในสังกัดต้องรายงานส่วนกลาง ไม่ว่าสัตว์นั้นจะเป็นชนิดใดก็ตาม
ทั้งนี้ไม่เพียงแต่กรณีสัตว์ตายเท่านั้น การเคลื่อนย้ายสัตว์ออกนอกพื้นที่ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ ก่อนทุกครั้ง อย่างเช่นการนำสัตว์เคลื่อนย้ายไปจัดแสดงที่สวนสัตว์แห่งอื่น ความเข้มงวดของระบบ ทำให้หัวหน้าฝ่ายบำรุงสัตว์คนดังกล่าว ไม่เชื่อว่า จะมีการนำสัตว์ในสวนสัตว์ออกไปขายในตลาดมืดได้
นายศรีศักดิ์ สุขชุ่ม หัวหน้าฝ่ายบำรุงสัตว์ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ระบุว่า ไม่ได้มองว่า เก้งเผือก มีมูลค่าสูงกว่าสัตว์ทั่วไป เพราะเกิดได้จากเก้งธรรมดาที่มียีนส์ด้อย และในทางกลับกัน ก็เป็นเก้งที่มีสุขภาพอ่อนแอกว่า ไม่สามารถปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติได้ เพราะสีของมันเด่นสะดุดตานักล่าในป่า
กัสกร ประดับมุข ถ่ายภาพ
นงนภัส พัฒน์แช่ม รายงาน
