เมื่อวันพุธ (7 ต.ค.) รัฐบาลศรีลังกาเปิดเผยว่า คนงานมากกว่า 1,000 คนที่โรงงานในศรีลังกามีผลทดสอบโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งโรงงานดังกล่าวยังคงเดินสายผลิตหน้ากากอนามัยให้สหรัฐฯ จนถึงเดือนสิงหาคม เบื้องต้นกำลังพยายามตามหาแหล่งที่มาของการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ
มวลชนแห่เที่ยวล้นกำแพงเมืองจีนในช่วงวันหยุดยาวไม่หวั่นโควิด-19
เซี่ยงไฮ้จัดเทศกาลริมทะเลคึกคัก หลังผ่านพ้นโควิด-19
สถานการณ์โควิด-19 ในศรีลังกาเริ่มตึงเครียด หลังการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นับพันที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเมื่อ 3 วันก่อนส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดเกือบ 4,500 ราย
Brandix เจ้าของโรงงาน กล่าวว่า ความพยายามในการควบคุมการติดเชื้อที่โรงงานใกล้เมืองหลวงโคลัมโบถูกขัดขวางโดยผู้พนักงานที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการจำนวนมาก
"ผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกส่วนใหญ่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่แสดงอาการที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19" บริษัทกล่าวในแถลงการณ์
Sudath Samaraweera หัวหน้านักระบาดวิทยาของศรีลังกา เรียกร้องให้ชุมชนท้องถิ่นร่วมมือกับทางการท่ามกลางความกลัวว่าการระบาดอาจแพร่กระจายไปอีก
"เรากำลังพยายามติดตามว่าไวรัสเข้ามาในประเทศได้อย่างไร แต่เราอาจทำสำเร็จหรือไม่ก็ได้" Samaraweera กล่าว
รัฐบาลกล่าวว่า จากพนักงานทั้งโรงงาน 1,700 คน มีคนงาน 1,026 คนที่ติดเชื้อโควิด-19 และขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
พนักงานที่เหลือ ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวของคนงานทั้งหมด อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายไปยังสถานกักกันของรัฐบาล คาดว่าทุกคนจะได้รับการตรวจหาไวรัสโควิด-19 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ส่วนภูมิภาคที่โรงงานตั้งอยู่ รวมถึงชุมชนใกล้เคียง ต่างถูกล็อกดาวน์โดยไม่มีกำหนด มีการประกาศใช้มาตรการ เช่น การรวมกลุ่มในที่สาธารณะทั้งหมดถูกห้าม โรงเรียนถูกสั่งปิด การแข่งขันคริกเก็ตในประเทศถูกยกเลิก และกองทัพเลื่อนการเฉลิมฉลองครบรอบก่อตั้งครบ 71 ปีออกไป
Brandix หนึ่งในผู้ส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของศรีลังกา ได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยแบบสามชั้นจำนวน 200 ล้านชิ้นให้กับลูกค้าในสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นใคร
เรียบเรียงจาก Channel News Asia
ภาพจาก AFP
