ศึกดีเบตชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรกและครั้งเดียวของทั้งคู่ เปิดฉากขึ้นที่มหาวิทยาลัยในเมืองซอลต์เลก ซิตี้ รัฐยูทาห์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ท่ามกลางมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ทั้งการจัดที่นั่งของสองผู้ท้าชิง ให้อยู่ห่างจากกัน 12 ฟุต หรือเกือบ 4 เมตร โดยมีกระจกเพล็กซิกลาส 2 แผ่น กั้นกลางระหว่างที่นั่งของทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนผู้เข้าฟังดีเบตทั้งหมด จะต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
“ไบเดน" เดินหน้าหาเสียงที่ฟลอริด้า โกยคะแนนช่วง "ทรัมป์" ป่วย
การดีเบตแบ่งออกเป็น 9 ช่วง ช่วงละ 10 นาที โดยผู้ดำเนินรายการ คือ ซูซาน เพจ ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ USA Today เริ่มต้นถามคำถามทีละข้อ ซึ่งมีทั้งเรื่องแนวทางการรับมือโควิด-19 ระบบประกันสุขภาพ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และปัญหาโลกร้อน โดยผู้ท้าชิงแต่ละคนมีเวลาประมาณ 2 นาที ในการตอบคำถาม
ประเด็นใหญ่ ที่มีการตอบโต้กันอย่างดุเดือด คือ การรับมือโควิด-19 โดยนางแฮร์ริสโจมตีรัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ส่งผลให้สหรัฐอเมริกามียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 7 ล้าน 5 แสนคน เสียชีวิตอีกกว่า 2 แสนคน มากเป็นอันดับ 1 ของโลก
นอกจากนี้ นางแฮร์ริส ยังโจมตีเรื่องความไม่โปร่งใสของทรัมป์ ทั้งข้อมูลเรื่องสุขภาพ การเงิน และการเสียภาษี พร้อมตั้งคำถามว่าใครคือเจ้าหนี้ 400 ล้านดอลลาร์ ที่ปรากฏในเอกสารการคืนภาษีของทรัมป์ เพราะชาวอเมริกันควรได้รู้ว่า ใครมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจต่างๆของผู้นำสหรัฐฯ
ฝั่งเพนซ์ ใช้โอกาสนี้เน้นย้ำว่า จีนคือต้นตอของโควิด-19 พร้อมโจมตีแผนรับมือโรคระบาดของฝั่งเดโมแครตว่าดูแล้วเหมือนไปลอกของคนอื่นมา นอกจากนี้ ยังชี้แจงประเด็นคลัสเตอร์ทำเนียบขาว ซึ่งหลายฝ่ายพุ่งเป้าว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากพิธีเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใหม่ ที่สวนโรส การ์เด็น ภายในทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา เพนซ์ยืนยันว่า ตนและภรรยา รวมถึงคนอื่นๆที่เข้าร่วมพิธี ล้วนได้รับการตรวจหาเชื้อ และงานดังกล่าวก็จัดขึ้นกลางแจ้ง ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข
หลายฝ่ายมองว่า ดีเบตครั้งนี้เป็นการโต้เถียงที่เน้นหนักไปทางนโยบาย มากกว่าจะเป็นการสาดโคลนใส่กันเหมือนในดีเบตยกแรกระหว่างคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ทั้ง 2 ผู้สมัครจะให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นอย่างดี แต่ก็ยังคงมีการพูดแทรกกันบ้างเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ยังมีแขกไม่ได้รับเชิญที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ นั่นคือ แมลงวัน ซึ่งบินมาเกาะที่หัวของเพนซ์นานกว่า 2 นาที จนชาวเน็ตพากันแซวว่า หรือนี่จะเป็นผู้พูดคนที่ 3 บนเวทีนี้ และทำให้แฮชแท็ก #Fly2024 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
หลังเสร็จสิ้นการดีเบต ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า "ไมค์ เพนซ์ ชนะขาด" ส่วนฝั่งไบเดน ทวีตข้อความว่า แฮร์ริส ทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจ
แพทย์ ยืนยัน “ทรัมป์” หายป่วยจากโควิด-19 แล้ว
“โจ ไบเดน” หาเสียงร่วมคู่หูชิงรอง ปธน.ครั้งแรก
"ทรัมป์" อ้างเดโมแครตใช้ โควิด-19 โกงเลือกตั้ง