เปิดแนวคิดพลังแฟนคลับเกาหลี สู่การเรียกร้องประชาธิปไตย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แฟนคลับเกาหลี สู่การเรียกร้องประชาธิปไตย กำลังถูกพูดถึงเมื่อพวกเขาออกมาร่วมชุมนุมและแสดงจุดยืนทางการเมือง ผ่านเพจหรือโซเชียลมีเดีย นิวมีเดีย พีพีทีวี จึงส่งอีเมล์ คุยกับ กลุ่มบ้านเบสของศิลปินเกาหลีวง BTS ชื่อว่า BTS THAILAND ซึ่งมีคนกดไลค์และติดตามกว่า 4 แสนคน ถึงแนวคิดในการออกมาเป็นกระบอกเสียง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในครั้งนี้ ขณะเดียวกันพวกเขาอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนไปในทิศทางไหน รวมถึงวลีที่ว่า "ถ้าการเมืองดี เราจะสนับสนุนศิลปินเกาหลีได้มากขึ้น"

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารเพื่อรวมตัวหรือทำกิจกรรมทางการเมืองครั้งนี้ และหนึ่งในกลุ่มคนที่มีพื้นที่ในโลกโซเชียลมีเดีย และเป็นกระบอกเสียงที่ดังไม่แพ้กัน คือ กลุ่มแฟนคลับศิลปิน ทั้งไทยและต่างชาติ (เกาหลี) เห็นได้จากการรวบรวมเงินเพื่อเป็นอีกช่องทางในการสนับสนุนการชุมนุม ซึ่งมีตัวเลขยอดบริจาคทะลุหลักล้านบาท

ไทม์ไลน์ 4 ชม. ม็อบราษฎร เคลื่อนขบวน​ ฝ่าตำรวจ​ ถึงทำเนียบฯ​ ประกาศชนะ​แล้ว!

เพราะอะไร? ทำไมกลุ่มแฟนคลับถึงหันมาสนใจเรื่องการเมือง หรืออีกด้านหนึ่งจริงๆ แล้ว เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน และ BTS THAILAND บอกว่า ทุกคนเป็นประชาชนชาวไทยก่อนที่จะเป็นติ่งเกาหลี

นิวมีเดีย พีพีทีวี ส่งอีเมล์ คุยกับ กลุ่มบ้านเบสของศิลปินเกาหลีวง BTS ในชื่อ BTS THAILAND  ถึงแนวคิดของการนำพลังแฟนคลับออกมาเป็นกระบอกเสียงสนับสนุนประชาธิปไตย โดยกลุ่มบ้านเบส BTS THAILAND จะเน้นไปที่การโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดียเป็นหลัก เพื่อแสดงจุดยืนและรณรงค์ในเรื่องต่างๆ มากกว่าการนัดหมายไปชุมนุม โดยมีที่มาจากตัวศิลปิน คือ วง BTS

โดยผลงานของวง BTS ในส่วนของเพลงจะออกมาในแนวการตั้งคำถามต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ความเหลื่อมล้ำ การกดขี่ การรักตัวเอง การใช้ชีวิตของวัยรุ่น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ล้วนเกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น จึงเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายแนวคิดที่จะออกมาช่วยเหลือสังคมในประเด็นต่างๆ ที่สำคัญก่อนที่จะออกมาเป็นกระบอกเสียงที่ชัดเจน พวกเขาใช้หลักประชาธิปไตยในบ้านเบสของพวกเขาเองก่อน

“ คนภายนอกหรือแม้แต่ตัวแฟนคลับที่ติดตามแอคเคาน์เราอยู่ อาจจะเกิดคำถามว่า นี่มันใช่หน้าที่ของการเป็นบ้านเบสศิลปินเหรอ ไม่ใช่ว่าพวกเราแค่ทำหน้าที่อัปเดตข่าวสารของศิลปินเหรอ ในส่วนของกำแพงตรงนี้ เราเลยใช้หลักประชาธิปไตยโดยการเปิดโหวตให้ผู้ติดตามโหวตว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่แอคเคาน์ของเราจะโพสต์เรื่องประเด็นทางสังคม ไปพร้อมๆกับการอัปเดตข่าวสารของศิลปินตามปกติ”

เปิด “ภาษาม็อบ” ใช้สื่อสารในการชุมนุม

ซึ่งผลโหวตก็ออกมา พบว่า เห็นด้วยประมาณ 90% โดยส่วนหนึ่งอาร์มี่ (ชื่อเรียกแฟนคลับของ BTS) ได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากผลงานเพลงของ BTS พวกเขาจึงสนับสนุนให้ทางบ้านเบส BTS THAILAND  สามารถใช้แอคเคาน์เพื่อเป็นกระบอกเสียงของสังคมได้

โดยในส่วนของ BTS THAILAND ยังไม่ได้มีกิจกรรมใดๆ ที่ชัดเจนนักเพียงใช้แอคเคาน์โพสต์อัปเดตประเด็นต่างๆ โดยมี 2 ประเด็นหลัก ที่ได้ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน คือ

เชิญชวนอาร์มี่และแฟนคลับศิลปินท่านอื่น งดการซื้อป้ายโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน MRT เพราะปกติแฟนคลับ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเบสเอง หรือแฟนคลับที่รวมกลุ่มกันเอง จะชอบทำโปรเจกต์ซื้อป้ายโฆษณาฉลองวันเกิดหรือโปรโมทผลงานใหม่ๆของศิลปิน

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน ( 16 ต.ค.63 ) BTS THAILAND มองว่า เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และรัฐทำไปด้วยความไม่ชอบธรรม ผิดหลักการสากล เพราะผู้ชุมนุมมาชุมนุมกันด้วยความสงบและปราศจากอาวุธ อีกทั้งการที่ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน MRT ปิดทำการ ไม่ได้เดือดร้อนแค่ผู้ชุมนุม แต่เดือดร้อนประชาชนทุกคน ที่ไม่สามารถเดินทางได้ รวมถึงเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการที่ตำรวจสลายการชุมนุม จึงเป็นที่มาของการ เริ่มรณรงค์ชักชวนอาร์มี่และแฟนคลับศิลปินท่านอื่นๆ ยกเลิกการซื้อป้ายโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน MRT

“ เราคิดว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ที่เราพอจะเคลื่อนไหวได้ เราก็ควรจะทำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เรารู้ว่ามันอาจจะส่งผลได้เพียงเล็กน้อย แต่พวกเราก็อยู่ในฐานะผู้บริโภค ที่มีสิทธิจะซื้อหรือไม่ซื้อบริการใดๆ ก็ได้ เราจึงชักชวนคนที่มีจุดยืนแบบเดียวกัน ”

แฟนคลับศิลปินไทย-ตปท. จ่องดซื้อป้ายโฆษณา BTS-MRT ประท้วงปิดสถานี

ประเด็นที่ 2 คือ แสดงจุดยืนและเชิญชวนอาร์มี่ เลิกบริจาคเงินให้กับยูนิเซฟประเทศไทย เพราะตัวศิลปินอย่าง BTS ได้เข้าร่วมแคมเปญกับทั้งยูนิเซฟและองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งที่ผ่านมาเหล่าแฟนคลับต่างบริจาคเงินเข้ายูนิเซฟประเทศไทยมาหลายปี แต่ยูนิเซฟประเทศไทย ซึ่งมีภารกิจหลักคือการดูแลสวัสดิภาพของเด็ก

กลับเพิกเฉยต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเยาวชน ทำให้รู้สึกว่าการบริจาคของแฟนคลับที่ผ่านมานั้นสูญเปล่า จึงแสดงจุดยืนและเชิญชวนทุกคนเลิกบริจาคให้องค์กรนี้

ขณะที่อีกส่วนหนึ่งที่เหล่าอาร์มี่ร่วมกันทำเองคือ การบริจาคเพื่อช่วยเหลือการเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งแม้ไม่ใช่อาร์มี่กลุ่มบ้านเบส BTS THAILAND  แต่เป็นอาร์มี่ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ที่เป็นตัวแทนจัดการในเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่เฉพาะบ้านเบสเท่านั้น แต่ใครก็ได้ที่ต้องการเป็นกระบอกเสียงก็สามารถลุกขึ้นมาทำเพื่อส่วนรวมได้

แฟนคลับเกาหลี บริจาคเงินหนุนม็อบกว่า 4 ล้านบาท

การออกมาเป็นกระบอกเสียงครั้งนี้ ในฐานะ BTS THAILAND อยากเห็น ประชาชนได้ใช้สิทธิใช้เสียงของตัวเองอย่างเต็มที่ในระบอบประชาธิปไตยแบบสากล เหมือนกับประเทศอื่นๆ แม้ว่าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืนเพราะทุกอย่างต้องใช้เวลาก็ตาม

“ ตอนนี้แค่พวกเราแสดงความคิดเห็นออกมายังทำได้ยากเลย ทุกอย่างมันไม่ปกติ และไม่ได้ดำเนินไปตามระบอบประชาธิปไตยแบบที่ควรจะเป็น เราอยากให้คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น มีระบบที่เข้มแข็งและตรวจสอบได้ ภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่เราจ่ายไป ไม่ว่าจะภาษีรายได้ส่วนบุคคลที่ต้องจ่ายทุกๆปี หรือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องจ่ายทุกครั้งที่ซื้อสินค้าและบริการ ถูกนำไปใช้อย่างเหมาะสม นำไปแก้ปัญหาความยากลำบากของประชาชนอย่างแท้จริง”  

นอกจากนั้นแล้ว ก็ต้องการให้รัฐบาลรับฟังหรือตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแล 3 ข้อเรียกร้องที่ประชาชนนำเสนอ หันหน้ามาคุยกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล รับฟังเสียงของประชาชนผู้ที่จ่ายภาษี จ่ายเงินเดือนให้พวกคุณเข้าไปบริหารประเทศ ไม่ใช่มาใช้ความรุนแรงกับประชาชน

ไม่เพียงแต่ BTS THAILAND เท่านั้น ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่ออกมาร่วมเป็นกระบอกเสียงด้วย และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มุมมองของ BTS THAILAND มองว่า เพราะพวกเราทุกคนเป็นประชาชนชาวไทยก่อนที่จะเป็นติ่งเกาหลี

BTS THAILAND  บอกว่า การที่แฟนคลับเกาหลีออกมาเป็นกระบอกเสียง มันเป็นจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมในฐานะมนุษย์ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งมากกว่าในฐานะแฟนคลับเกาหลี แต่การเป็นกลุ่มก้อนของแฟนคลับเกาหลี มันเป็นคอมมูนิตี้หนึ่งที่เรามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเหมือนเพื่อนพี่น้อง เพราะเรารักและสนับสนุนศิลปินเดียวกัน พอเรามีจุดยืนแบบเดียวกัน เราก็เลยสามารถทำอะไรร่วมกันได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

“ อย่างแรกสังคมต้องเลิกมองแฟนคลับเกาหลีหรือติ่งเกาหลีว่า ทำแต่เรื่องไร้สาระก่อน เหตุผลง่ายๆก็คือ พวกเราทุกคนเป็นประชาชนชาวไทยก่อนที่จะเป็นติ่งเกาหลีค่ะ มันเป็นเหตุผลง่ายๆแค่นี้แหละ”

เห็นด้วยกับ วลี “ถ้าการเมืองดี เราจะสนับสนุนศิลปินเกาหลีได้มากขึ้น” BTS THAILAND มองว่า การสนับสนุนศิลปินเกาหลีมันมีหลายทาง ทั้งทางที่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย ในส่วนของทางที่มีค่าใช้จ่าย เช่น การซื้ออัลบั้ม ดาวน์โหลดและสตรีมเพลง บัตรคอนเสิร์ต สินค้าออฟฟิเชียล ต่างๆ ซึ่งอาชีพของศิลปินต้องขายผลงานเพื่อดำรงชีพ แฟนคลับก็ต้องสนับสนุนสินค้าและบริการแบบถูกลิขสิทธิ์ เพื่อสนับสนุนศิลปินแบบถูกกฎหมายจึงต้องใช้เงินสนับสนุนในส่วนนี้

และ ถ้าการเมืองดี เช่น มีรัฐสวัสดิการที่ดี ขนส่งสาธารณะราคาถูก รายได้สัมพันธ์กับค่าครองชีพ กลุ่มแฟนคลับจะมีเงินเอาไปทำอย่างอื่นในแบบที่เราชอบ ซึ่งไม่เพียงแค่การนำเงินไปสนับสนุนศิลปินเท่านั้น

“ แต่ถ้าเรามีเงินเหลือนอกเหนือจากการหักค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว เราจะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ทำเรื่องอื่นๆได้มากมาย เช่น ไปเรียนเสริมในสิ่งที่เราชอบ ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ หรือไปต่อยอดธุรกิจทำตามความฝันของตัวเอง ทุกคนมีสิทธิที่จะนำเงินที่ตัวเองหาได้ มาใช้อย่างไรก็ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นด้วยกับวลีดังกล่าว”

สำหรับวง บีทีเอส หรือ บังทันโซยอนดัน เป็นบอยแบนด์เกาหลีใต้ สังกัดบิกฮิตเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 7 คนคือ จิน, ชูกา, เจ-โฮป, อาร์เอ็ม, จีมิน, วี และจ็องกุก  เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ปี 2013 และเคยขึ้นแสดงบทเวที American Music Award ปี 2017

สร้างสถิติเพลงขึ้นชาร์ตต่าง ๆ มากมาย เช่น การเป็นศิลปิน K-POP กลุ่มแรกที่มีเพลงติดอันดับใน TOP40 ของชาร์ต Billboard Hot 100 ได้แก่ เพลง Mic Drop (Steve Aoki Remix), ได้รับรางวัล Top Social Artist จากเวที Billboard Music Awards ปี 2017 และปี 2018 นอกจากนี้ พวกเขายังเคยได้ขึ้นกล่าวบทสุนทรพจน์ในเวทีการประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อีกด้วย และมีชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับว่า อาร์มี่

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ