เมื่อน้ำทะเลใสจนสามารถเห็นปลาแหวกว่าย ใสยิ่งกว่าน้ำที่มาจากท่อน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองมาแล้ว คงเป็นภาพที่ใครหลายคนคุ้นชินสำหรับประเทศญี่ปุ่น แต่ในบางแห่ง การที่น้ำทะเลสะอาดมากๆ กลับส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลาและสาหร่ายทะเลเพราะไม่มีสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอ เป็นลูกโซ่ไปถึงอุตสาหกรรมประมงท้องถิ่น
นักวิชาการ ระบุแพลงก์ตอนบลูมเกิดจากน้ำทิ้งโรงงาน
ปัญหานี้เกิดขึ้นที่ น้ำทะเลที่เกาะเซโตะ (Seto Inland Sea) หากย้อนกลับไปในอดีตทะเลแห่งนี้เคยมีสภาพเสื่อมโทรม มีการปนเปื้อนสารเคมีในทะเลจากโรงงานอุตสาหกรรม ต่อมาในปี 1973 รัฐบาล โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อม ร่างกฎหมายในการแก้ไขและบำบัดน้ำเสีย โดยการลดเกลือที่นำไปสร้างสารอาหาร (nutrient salts) ลง เพราะทำให้น้ำขุ่นมั่วและเน่าเหม็น ไปจนถึงการจำกัดการปล่อยน้ำเสียลงทะเล ส่งผลทำให้ น้ำทะเลที่เกาะเซโตะ (Seto Inland Sea) ใสสะอาดยิ่งกว่าน้ำก๊อก แต่ความในสะอาดนั้นกำลังสร้างความเดือดร้อน เมื่อมันส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลาและสาหร่ายทะเลเนื่องจากสารอาหารที่จำเป็นหายไป
“ ความหนาแน่นของเกลือ สารอาหารประเภทไนโตรเจนและฟอสฟอรัสลดลง แพลงก์ตอนตาย สาหร่ายเปลี่ยนสีและจำนวนปบาลดลง เพราะน้ำสะอาดมากเกินไป” ข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น
ชาวบ้านเชื่อ “ปลาตาย หาดตากวน” เหตุจากน้ำเสีย
ดังนั้น ทางกระทรวงฯ จึงกำลังพิจารณาปรับปรับแผนเพิ่มเกลือที่จำเป็นต่อการสร้างสารอาหารลงไปในน้ำทะเล พูดให้เข้าใจง่ายคือ ทำให้น้ำทะเลเสียขึ้นมาระดับหนึ่งในเพียงพอที่จะให้สาหร่ายทะเลและปลาทะเลเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งทางกระทรวงสิ่งแวดล้อมจะเสนอต่อในสภาไดเอทแห่งชาติญี่ปุ่น (The National Diet of Japan) ให้แก้กฎหมายในส่วนนี้ ในช่วงต้นปีหน้า (2564) ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขกฎหมายมาตรการพิเศษเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของทะเลเซโตะ แต่จะควบคุมปริมาณเกลือและความหนาแน่น เพื่อไม่ให้น้ำกลับไปเสียเหมือนในอดีต
ส่วนในช่วงระหว่างการเสนอร่างกฎหมายรัฐบาลท้องถิ่น จะใช้มาตรการพิเศษในช่วงฤดูเลี้ยงสาหร่าย (ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิถัดไป) ด้วยการเพิ่มปริมาณเกลือของสารอาหารที่ปล่อยออกจากโรงบำบัดน้ำเสียรวมถึงปล่อยน้ำจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณเกลือเข้าทะเล
ชาวมาบตาพุดไม่เชื่อปลาตายเกิดจากแพลงก์ตอนบลูม (คลิป)
