“ทรัมป์” เสนอชื่อ "เอมี บาร์เรตต์" เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใหม่
ทรัมป์เผยชื่อผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใหม่
สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ ลงมติสนับสนุนด้วยคะแนน 52-48 เสียง รับรองให้นางเอมี โคนีย์ บาร์เรตต์ วัย 48 ปี ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใหม่ แทนนางรูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ซึ่งถึงแก่กรรมไปเมื่อกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับนางบาร์เรตต์ เป็นสมาชิกของกลุ่มคาทอลิกสายอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ซึ่งการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ จะทำให้เธอกลายเป็นผู้พิพากษาหญิงคนที่ 5 แห่งศาลฎีกาสหรัฐฯ และจะยิ่งเพิ่มสัดส่วนให้ผู้พิพากษาฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีมากกว่าฝ่ายเสรีนิยม เป็น 6 ต่อ 3 เสียง นั่นหมายถึง ทิศทางการพิพากษาคดีจากนี้จะยิ่งเป็นไปในทางเอียงขวามากขึ้น เช่น การจำกัดสิทธิ์การทำแท้ง และขัดขวางสิทธิของคู่รักเพศเดียวกัน
หลังเสร็จสิ้นการลงมติ นางบาร์เรตต์ ได้ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่ทำเนียบขาว โดยมี ทรัมป์ ที่เพิ่งเดินทางกลับจากการหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย ร่วมเป็นสักขีพยาน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นชัยชนะสำคัญของทรัมป์ ซึ่งพยายามเร่งรัดกระบวนการดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งมาโดยตลอด ท่ามกลางเสียงคัดค้านของพรรคเดโมแครต ที่มองว่าตามมารยาททางการเมือง ควรจะรอให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยออกมาพูดว่าศึกเลือกตั้งปีนี้ อาจต้องไปจบที่ศาลฎีกา หลายฝ่ายจึงเชื่อว่า นางบาร์เรตต์ จะเข้าไปมีส่วนร่วมตัดสินคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงด้วย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์เคยแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาสายอนุรักษ์นิยมมาแล้ว 2 คน ซึ่งนางบาร์เรตต์จะเป็นคนที่ 3 โดยผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีวาระดำรงตำแหน่งตลอดชีวิต
ส่วนความคืบหน้าการเดินสายหาเสียงของสองผู้สมัคร แน่นอนว่า ทรัมป์ยังลงพื้นที่อย่างหนัก วันละ 2-3 จุด และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5 จุด ในช่วงโค้งสุดท้าย ขณะที่โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ยังใช้เวลาส่วนใหญ่ที่รัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิด โดยหลังจากลงพื้นที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ ก็ไม่มีกำหนดการหาเสียงอีกเลยจนกว่าจะถึงวันพฤหัสฯ กลายเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงประธานาธิบดีที่ลงพื้นที่หาเสียงน้อยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
