ผู้ปกครอง พอใจมาตรการของ รร. เชื่อมั่นให้บุตรหลานเรียนต่อ
เอกสารการสมัครเรียนกับโรงเรียนวิชาชีพแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 50 คน นำมาเป็นหลักฐานร้องทุกข์กับตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบโรงเรียนดังกล่าว หลังอ้างว่าสามารถต่อวีซ่าให้นักท่องเที่ยวสามารถพักอาศัยในประเทศไทยได้นาน 1 ปี
ผู้เสียหายเล่าว่า โรงเรียนดังกล่าวชักชวนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่วีซ่าใกล้หมดอายุ เข้ามาสมัครเรียน โดยมีหลักให้เลือก คือ สูตรนวดแผนไทย หลักสูตรภาษาไทย ทำอาหารไทย และหลักสูตรภาษาอังกฤษ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สมัครเรียนทางโรงเรียนจะดำเนินการขอวีซ่านักเรียน ซึ่งจะมีอายุ 1 ปีให้ โดยผู้สมัครจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 30,000 บาท หรือมากกว่านั้น เพราะแต่ละหลักสูตรมีราคาแตกต่างกัน
ทางโรงเรียนจะเรียกเก็บเงินจำนวน 2 งวด และแจ้งว่าจะดำเนินการออกวีซ่าให้ก่อนวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา แต่พอนักท่องเที่ยวลงสมัครเรียน จนเลยกำหนดก็ยังไม่ได้รับวีซ่านักเรียนตามที่ตกลง เมื่อไปสอบถามโรงเรียนก็บ่ายเบี่ยง บางคนพยายามขอเงินคืนจากทางโรงเรียน แต่ก็ถูกปฏิเสธ
เบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้สมัครเรียนกับโรงเรียนดังกล่าว ตั้งกลางเดือนสิงหาคม โดยชำระเงินบางส่วนไปให้กับทางโรงเรียนแล้ว แต่ไม่ได้รับวีซ่านักเรียน จึงได้มาร้องเรียนกับตำรวจ
ด้านพันตำรวจเอกศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว สามารถทำเรื่องขอเปลี่ยนประเภทเป็นวีซ่านักเรียน หรือ Non-ed ได้ โดยยื่นคำร้องขอการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราประทับที่สำนักงานตรวจคนเข้า โดยต้องยื่นเอกสารต่าง ๆ ประกอบ พร้อมกับค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนประเภทวีซ่า 2,000 บาท
ซึ่งการจะขอเปลี่ยนประเภทวีซ่า ชาวต่างชาติจะต้องมีระยะเวลาวีซ่าเหลือไม่น้อยกว่า 15 วัน ส่วนระยะเวลาของวีซ่านักเรียน ขึ้นอยู่กับหลักสูตรแต่ละวิชาว่าต้องใช้เวลาเรียนนานเท่าไหร่
ก่อนหน้านี้โรงเรียนแห่งนี้ เคยมายืนขอออกวีซ่าให้กับนักเรียนไปแล้วประมาณ 170-180 คน ซึ่งบางคนก็ได้วีซ่านักเรียนแล้ว แต่บางคนยังอยู่ในขั้นตอนเสนอออกวีซ่า ในส่วนกลุ่มชาวต่างชาติกลุ่มที่ระบุว่ายังไม่ได้รับวีซ่านักเรียน ทางพนักสอบสวนจะเร่งตรวจสอบชาวต่างชาติว่ามีใครเข้าข่ายถูกหลอกลวงบาง โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สะเทือนใจ! หมอฟ้อง รพ.ดังเชียงใหม่ทำภรรยาเภสัชฯเสียชีวิต เพิ่งรู้มีลูกในครรภ์