อังกฤษระงับทดสอบวัคซีนโควิด-19 หลังพบอาสาสมัครป่วยไม่ทราบสาเหตุ
โรงเรียน 3 แห่งในอังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ยืนยันไม่ปิดโรงเรียน
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษแถลงถึงการตัดสินใจประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกเป็นครั้งที่ 2 ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ต้องเผชิญกับหายนะทางการแพทย์ และศีลธรรม หากรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ไม่ได้ พร้อมระบุด้วยว่า เทศกาลคริสต์มาสในปีนี้ อาจแตกต่างจากปีก่อน ๆ เป็นอย่างมาก แต่หวังว่า การดำเนินมาตรการต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนนี้จะช่วยให้ครอบครัวสามารถรวมตัวกันพร้อมหน้าได้เมื่อถึงเวลานั้น
ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองทั่วประเทศครั้งใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ประชาชนจะต้องอยู่แต่ภายในบ้าน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น แต่สามารถอออกกำลังกายกลางแจ้งได้ ส่วนร้านค้าและบริการที่ไม่สำคัญ เช่น ผับ บาร์ และร้านอาหาร จะถูกปิด แต่ยังสามารถให้บริการแบบซื้อกลับบ้านได้ ขณะที่โรงเรียน สถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัย ยังคงสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ เช่นเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่สามารถจัดต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำอังกฤษระบุว่า หลังจากวันที่ 2 ธันวาคม จะเริ่มมีการผ่อนคลายข้อบังคับเข้มงวดดังกล่าว และกลับไปใช้ระบบเทียร์ในการจำแนกความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามเดิม ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นหลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 21,915 คนเมื่อวันเสาร์ ส่งผลทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,011,660 คน เป็นประเทศที่ 9 ของโลกที่ยอดผู้ติดเชื้อทะลุหลัก 1 ล้านคน ต่อจาก สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินาและโคลอมเบีย ขณะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 326 คน รวม 46,555 คน