'บิณฑ์ - เอกพันธ์' รับเสด็จฯ 'เสี่ยโป้ กนก หมอวรงค์ พุทธะอิสระ' สวมเสื้อเหลือง ทรงพระเจริญกึกก้อง
“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” จากพระเอกตุ๊กตาทอง สู่นักจิตอาสา ในดราม่าร้อน
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 นายบุญญฤทธิ์ ณิปวนิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นำเอกสารเข้าพบ พันตำรวจโทขจร เรือนคำ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่ริม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม คดีนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่าดอยสุเทพ โดยไม่ได้รับอนุญาติ เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร ฉ้อโกงประชาชน
โดยหลังใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นายบุญญฤทธิ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับพฤติกรรมการเรี่ยไรและการใช้เงินที่ได้รับบริจาค จากพยานหลักฐานเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้ โดยเฉพาะการเรี่ยไรไม่ขออนุญาต ซึ่งคดี “นายฌอน” มีความคืบหน้าไปมาก ที่ผ่านมามีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอก และฉ้อโกงประชาชนหลายท้องที่ เช่น สภ.ปากเกร็ด สภ.นนทบุรี และสภ.นครสวรรค์
นอกจากนี้ นายบุญญฤทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงชื่อดัง เปิดรับบริจาคหรือเรี่ยไรช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัย และผู้ที่เดือดร้อนจากปัญหาทางสังคม ว่ามีลักษณะคล้ายกับคดี "นายฌอน" เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบว่ามีการขอบริจาคหรือเรี่ยไรอย่างใด เท่าที่ติดตามพบว่ามีผู้บริจาครวมกว่า 422 ล้านบาท ซึ่งตัวเองเคยเป็นปลัด อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี มาก่อน ซึ่งนายบิณฑ์และคณะนำเงินบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมคนละ 5,000 บาท แต่มีผู้ร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบเงินบริจาคดังกล่าว โดยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานเพื่อขอข้อมูลเรื่องดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกันแล้วคดี “นายบิณฑ์” กับ “นายฌอน” ไม่แตกต่างกัน เพราะเปิดรับบริจาคโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายยักยอก หรือฉ้อโกงมหาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่สร้างมูลค่าความเสียหายมากกว่า เนื่องจากมีผู้บริจาคจำนวนมาก ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจหรือกังวลคดีนายบิณฑ์ เพราะทำตามอำนาจหน้าที่ พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ และใช้คดีนายฌอนเป็นแนวทางปฏิบัติกับคดีนายบิณฑ์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน