เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานบวช ของนายธีรชัย คงทอง หรือ จีจี้ปีโป้ เจ้าของร้านทองศิวาลัย ที่เคยมีคดีความ หลอกขายทองน้ำหนักไม่ตรงให้ลูกค้าผ่านไลฟ์เฟซบุ๊ก ถูกนำมาเผยแพร่ลงในสื่อออนไลน์ เนื่องจากพิธีถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ ไม่เหมือนกับงานบวชทั่วไป ทั้งเครื่องแต่งกายของนาค ที่เป็นชุดสไบ มีการใส่เครื่องประดับหัวคล้ายมงกุฎ รวมถึงการแห่นาคโดยนั่งบนเสลี่ยง และใช้คนแบกสวมใส่ชุดคล้ายทหารโบราณ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมจำนวนมาก
แชร์ว่อน! งานบวช 100 ล้าน "จีจี้ปีโป้" เจ้าของร้านเพชรทองดัง เนรมิตสุดวิจิตร พิธีการอลังการ
ด้านพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง โพสต์ให้ความเห็นกรณีดังกล่าวว่า บ้านเมืองนี้นี่มันมีอะไรแปลกๆ ให้เห็นอยู่เรื่อยเลยนะ นี่อันนี้คือเขาจะบวชพระ หรือจะเข้าพิธีถวายตัวเป็นพระสนมของเจ้าเมืองไหน ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นงานบวชในลักษณะนี้มาก่อน ซึ่งตามหลักพุทธศาสนา ไม่ได้มีข้อห้ามในการจัดพิธีอุปสมบท ใหญ่โต หรูหรา เรื่องการจัดงานเป็นสิทธิส่วนบุคคล หากมีเงินก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย เพราะสมัยพุทธกาลการจัดงานบวชคือความเรียบง่าย แต่ส่วนตัวมองว่า การจัดพิธีครั้งนี้ มีองค์ประกอบโดยรวมเกินความเหมาะสม จนเหมือนงานแสดงโชว์มากกว่าพิธีทางศาสนา อย่างการบวชนาค เป็นการเตรียมพร้อมที่จะบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ควรต้องสละทางโลก ไม่ยึดติดวัตถุ สิ่งของ รวมถึงผู้ที่จะบวชต้องปฏิบัติตัวให้สำรวมด้วย ซึ่งขัดแย้งกับการจัดงานนี้
พระมหาไพรวัลย์ กล่าวต่อว่า การจัดงานบวชที่ปรากฏในคลิปนี้ เห็นความไม่เหมาะสมหลายส่วน เช่น ชุดแต่งกายไม่เหมาะสม ชุดที่สวมใส่มีลักษณะคล้ายชุดสไบ ทั้งที่ชุดนาคควรเป็นชุดไตรนาคสีขาว เรียบ เพื่อลดละเลิก พร้อมปฏิบัติธรรม ชุดนาค ไม่ควรมีเครื่องประดับตกแต่งอื่น ๆ ไม่ควรสวมใส่เครื่องหัว หรือแม้แต่การขึ้นนั่งขบวนเสลี่ยงแห่นาคก็ไม่ควรทำ ซึ่งข้าวของต่าง ๆ เหมือนเป็นของที่ใช้ในวัง คล้ายกับฉากละครมากกว่า
ผอ.สำนักพุทธยะลา ตรวจสอบงานบวช “จีจี้ปีโป้”
ทั้งนี้ย้อนไปดูขั้นตอนสำคัญในการอุปสมบท ตามหลักพระพุทธศาสนา พระคู่สวดจะสวดถาม “อันตรายิกธรรม”ซึ่งจะสวดถามเป็นภาษามคธ ผู้ขออุปสมบทต้องตอบ “นัตถิ ภันเต” 5 ครั้งแรก ตอบ “อามะ ภันเต” 8 ครั้ง ซึ่งใน 13ข้อ หากตอบผิดไป 1 ข้อ จะไม่สามารถบวชได้ ซึ่งหนึ่งใน คำถาม 8 ข้อหลังข้อที่ 2 จะถามว่าเป็นผู้ชายหรือไม่ ตามหลักพระพุทธกาลแล้วผู้เป็นเพศที่ 3 จะไม่สามารถบวชได้
ซึ่งในหลักข้อพระวินัยพระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า หากผู้ที่ขออุปสมบทยังมีเพศสภาพเป็นชาย ก็สามารถบวชได้ตามปกติ แต่เมื่อบวชเข้าไปแล้ว ก็ต้องมีการเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เป็นชายโดยสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ไม่แสดงอากัปกิริยาไม่เหมาะสมออกมา และมองว่าการเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์งานบวชครั้งนี้ เป็นเหมือนกรณีศึกษาให้พระอุปัชฌาย์ ที่ทำพิธีบวช ควรเข้าไปให้คำแนะนำ เรื่องการปฏิบัติตัว รวมถึงสร้างความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของการบวชอย่างแท้จริง ก่อนจัดพิธีบวชด้วย
