“วอชด็อก”เร่งสืบหาข้อเท็จจริงปมดราม่า “แมวเจ้าสัว”ถูกจับปล่อยป่าจนตาย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลายเป็นดราม่าสำหรับกลุ่มคนรักแมว (ทาสแมว) เมื่อเจ้าของไปพักผ่อนต่างจังหวัด 2 วัน โดยปล่อยแมวไว้ที่บ้านพัก แต่ปรากฎว่าระหว่างนั้นแมวได้ปีนหนีออกจากบ้านพัก และเข้าไปภายในบ้านคนอื่น ซึ่งเจ้าของบ้านหลังนั้นได้แจ้งให้กู้ภัยมาจับตัวแมวไป ต่อมากู้ภัยได้นำไปปล่อยที่ป่ารกร้างริมทาง จนกระทั่งเจ้าของได้ตามเจอร่างอันไร้วิญญาณ ล่าสุดทางมูลนิธิวอชด็อก ได้เข้ามาช่วยสืบหาข้อเท็จจริงแล้ว และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 1 ราย เป็นนักการทูตฮังการี อาศัยอยู่ในกทม.

เปิดลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบเก็บตก 2.3 ล้านคน 6 โมงเช้า 11 พ.ย.นี้

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ได้ประกาศตามหาแมวชื่อ “เจ้าสัว” สายพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์  เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 พ.ย. หลังหลุดออกจากบ้านใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนทราบว่าเพื่อนบ้านได้แจ้งกู้ภัยแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน ให้ไปช่วยจับแมวตัวดังกล่าว เนื่องจากกลัวว่าแมวจะไปกัดลูกหลาน และบอกว่าให้นำปล่อยไกลๆ

ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงจับแมวและนำไปปล่อยในป่า เจ้าของแมวจึงโพสต์ต่อว่ากู้ภัยว่า ทำไมถึงไม่ประกาศตามหาเจ้าของ และไม่สมควรนำไปปล่อยในป่า จากนั้นเจ้าของแมวได้พากันออกตามหาทั่วบริเวณที่กู้ภัยนำแมวไปปล่อยอยู่หลายชั่วโมง

ขณะที่กู้ภัยได้มีการโพสต์ตอบโต้ผ่านเพจเฟซบุ๊ก แมวตัวนี้หลุดออกมาจะกัดคนตั้งแต่เช้าจนบ่ายสาม มีคนโทรแจ้งกู้ภัยว่าให้ช่วยไปจับ ถ้าแมวมีราคา ทำไมไม่ใส่ปลอกคอให้แมว จะได้ตามหาเจ้าของได้ โดยนำแมวไปปล่อยไม่ไกลบ้านของคนที่แจ้ง เผื่อมีเจ้าของจะได้กลับบ้านได้  และไม่ได้เอาไปปล่อยในป่าอย่างที่เจ้าของแมวกล่าวหา

ทางกู้ภัยยังตัดพ้อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ท้อใจ จะกล้าออกไปช่วยใครอีกไหม เพราะไปช่วยคนที่เดือดร้อนกลับโดนแจ้งความ ฝากถึงคนรักหมา รักแมว ช่วยดูแลให้ดี อย่างให้หลุดไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ที่สำคัญต้องมีปลอกคอพร้อมเบอร์โทร

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายคน ได้คอมเมนต์ตอบโต้เจ้าของแมว ทำให้กลายเป็นประเด็นดราม่าบนโลกโซเชียล  และกลุ่มคนรักแมวที่ติดตามข่าวของแมวเจ้าสัว จึงเกิดความไม่พอใจ และมีการโต้ตอบกันระหว่างกลุ่มคนรักแมวกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าของได้เจอร่างไร้วิญญาณของเจ้าสัว ไม่ไกลจากจุดที่ถูกนำมาปล่อย โดยสภาพเปื้อนโคลนไปทั้งตัว แต่ไม่มีบาดแผล ทำให้เจ้าของเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมโพสต์ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ หลังจากนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย

 ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ไทม์ไลน์ “แมวเจ้าสัว” ที่หายตัวไปจากบ้านพักกัน

โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ครอบครัวเจ้าของแมว เดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด 2วัน 1คืน  แต่ระหว่างนั้นไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต จึงไม่สามารถเปิดดูแมวเจ้าสัวผ่านกล้องวงจรปิดได้

จากนั้น วันที่ 8 พ.ย. เวลาประมาณ 14.00 น. ครอบครัวเจ้าของเดินทางออกจากที่พัก และพอมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็ได้เปิดดูกล้องวงจรปิด แต่ปรากฎว่าไม่พบแมวอยู่ที่บ้านแล้ว ต่อมาพบว่าแมวปีนหนีออกจากบ้านไปจริง จึงได้ประสานให้เพื่อนบ้านเข้าไปช่วยตรวจสอบ ซึ่งก็พบข้อมูลว่าแมวได้ปีนเข้าไปในบ้านคนอื่น

15.00 น. ข้างบ้านแจ้งให้อาสากู้ภัย มาจับตัวแมวเจ้าสัวไปให้พ้นจากบ้านที่เดือดร้อน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำไปปล่อยในป่ารกร้างริมทาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก

 16.00 น. ครอบครัวเจ้าของแมวกลับมาถึงที่บ้านแต่ไม่เจอแมว โดยคลาดกันเพียงนิดเดียว ทางเจ้าของจึงได้ออกตามหาในสถานที่ถูกปล่อย ซึ่งใช้เวลาตามหาอยู่หลายชั่วโมง ตามหากันจนดึกๆดื่นๆแต่ก็ไม่พบตัวแมวเจ้าสัว   

จนกระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 9 พ.ย. ก็ได้ออกตามหาอีกครั้ง มีการนำอาหารมาวางไว้ และเดินตามหาไปทั่วบริเวณ จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าของได้เจอร่างแมวเจ้าสัว อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ถูกนำมาปล่อย สภาพเปื้อนโคลนไปทั้งตัว แต่ไม่มีบาดแผล 

และทางเจ้าของได้โพสต์ล่าสุดทำนองว่า “ นี่คือสถานที่ ที่อาสาสมัครนำเจ้าสัวไปปล่อยคุณคิดดูซิค่ะ สถานที่แบบนี้สมควรนำแมวไปปล่อยหรอ  รอบข้างเป็นป่า ด้านหน้าเป็นถนน 4 เลน  อันตรายรอบด้าน น้องวิ่งไปทางไหนก็ไม่มีทางรอดอยู่แล้ว... ไหนอาหาร ไหนที่อยู่ ไหนที่นอน ไหนที่ปลอดภัย”  

ขณะที่ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว

ซึ่งหลังจากสืบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ได้เห็นสถานที่ที่นำแมวไปปล่อย วิธีการจับแมวใส่กระสอบ และการใช้วิจารณญาณในฐานะอาสาสมัครกู้ภัยที่ควรจะได้รับการอบรมวิธีการ และแนวทางการช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์เรื่องก็เลยพลิกครับ ที่มันเข้าทารุณกรรมสัตว์ก็เพราะ การเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่เดิมของสัตว์โดยน้ำมือมนุษย์ คือนำสัตว์ไปปล่อยในสถานที่ที่ไม่มีสวัสดิภาพสัตว์  ไม่ว่าจะเป็นหมาแมวจรหรือหมาแมวมีเจ้าของ ก็ผิดทั้งเพครับ ไม่มีข้อยกเว้นว่าประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเอกชนไม่รู้กฏหมาย และแล้วในที่สุดชะตากรรมของสัตว์ที่ถูกนำไปปล่อยทิ้งในสถานที่ที่ไม่มีสวัสดิภาพสัตว์ที่เหมาะสม ก็เป็นเช่นทุกชีวิตที่เคยเป็นมา…คือตาย

 เบื้องต้นทางวอชด็อกได้แจ้งเรื่องร้องเรียน โดยนำร่างส่งแช่แข็งที่โรงพยาบาลสัตว์กรุงศรีฯ รอผลการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป  ขณะที่เจ้าของได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางปะอิน จ.อยุธยา เอาไว้แล้ว

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ