สำนักงานใหญ่ SCB ประกาศปิดให้บริการ 1 วัน เลี่ยงม็อบ
ม็อบแกง!! ประกาศเปลี่ยนที่ชุมนุม ไม่ไปแล้วสำนักทรัพย์สินฯ ปักหมุดใหม่ SCB สำนักงานใหญ่
ทีมข่าวพบว่าตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้นำแผงเหล็กกว่า 70 แผง มาวางเพิ่มเติมไว้ด้านหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ตำรวจนครบาลยังได้ประสานไปยังการไฟฟ้านครหลวงให้ส่งเจ้าหน้าที่มาติดตั้งกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าบริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มทั้งหมด 8 ตัว โดยกล้องวงปิด 2 ตัว หันเข้ามาในตัวอาคาร ส่วนที่เหลืออีก 6 ตัว หันออกด้านนอกถนนรัชดาภิเษก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้เข้าไปประจำภายในตัวอาคารแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าทั้งหมดเท่าไร ส่วนบรรยากาศโดยรอบยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและยังไม่มีการปิดถนนแต่อย่างใด
โดยเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เพจเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH ได้ประกาศเปลี่ยนสถานที่การชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันทนี้ (25พ.ย.) จากเดิมซึ่งนัดรวมตัวกันในเวลา15.00น.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อเคลื่อนไปยังสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นสำงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือSCB ย่านรัชโยธิน โดยเพจดังกล่าวระบุว่า BREAKING: #ม็อบ25พฤศจิกา เปลี่ยนไปสำนักงานใหญ่ SCB!
ทั้งนี้ เพื่อลดการปะทะจากม็อบจัดตั้ง และเพื่อไม่ให้เดินตามเกมของทรราช! พร้อมกัน 15.00 น. ร่วมทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร จะมีทีมงานไปดูแลมวลชนที่ไม่ทราบข่าวแล้วไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโปรดช่วยกันกระจายข่าว! ติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เชื่อถือได้
อย่างไรก็ตามก่อนที่กลุ่มราษฎร จะย้ายที่ชุมนุมไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ย.) กลุ่มราษฎรจะ ได้นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเคลื่อนขบวนไปสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในขณะที่กลุ่มคณะแผ่นดินสยามและเครือข่ายก็นัดชุมนุมที่ถนนลูกหลวง เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้กับสำนักงานทรัพย์สินฯ และกลุ่มภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ นัดรวมพล หน้าอาคารรัฐสภานั้น
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความปลอดภัยการชุมนุม ว่า บช.น.ได้เตรียมตำรวจ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันเหตุร้าย โดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมชุดเคลื่อนที่เร็วตั้งจุดตรวจค้นเพื่อ ป้องกันเหตุในพื้นที่ต่างๆ ส่วนบริเวณโดย รอบในพื้นที่รับผิดชอบของ 5 สน. คือ สน. สามเสน, ชนะสงคราม, นางเลิ้ง, สำราญ ราษฎร์ และดุสิต ซึ่งการจัดเตรียมกำลังจัดขึ้นกับความเหมาะสมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
มีรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งว่าได้มีหนังสือด่วนสั่งการให้จัดเตรียมกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมวันที่ 25 พ.ย.ที่บริเวณหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยระดมกำลังจากตำรวจภูธรภาค 1-8 บช.น. และ ตชด.ดูแลรวม 39 กองร้อย จำนวน 5,850 นาย
ขณะเดียวกันมีนายงานจากทำทำเนียบรัฐบาลประสานข้าราชการเป็นการภายใน ให้เก็บเอกสารสำคัญและสิ่งของที่จำเป็นของบางหน่วยงานกลับบ้านตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ก่อนการชุมนุมของกลุ่มราษฎรวันที่ 25 พ.ย.
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เปลี่ยนสถานที่นัดพบกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) จากเดิมนัดพบที่ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เปลี่ยนไปพบที่กระทรวงการต่างประเทศแทน
ทางด้าน สำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งสื่อมวลชนที่เข้าปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาลวันที่ 25 พ.ย. ให้งดเผยแพร่ภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมสั่งเคลียร์พื้นที่ ให้นำยานพาหนะ ออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และห้ามจอดยานพาหนะค้างคืนเด็ดขาดซึ่งเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย
ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์กรณี โซเชียลมีเดียแชร์ภาพเฮลิคอปเตอร์บินใน กทม. พร้อมกับเชื่อมโยงกับการทำรัฐประหาร โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ ชี้แจงว่าเฮลิคอปเตอร์ ที่บินในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในเป็นภารกิจขบวนเสด็จ ที่กองทัพบกทำหน้าที่ถวายงาน ส่วนประเด็นมีกระแสข่าวลือรัฐประหาร ผบ.ทบ. ยืนยัน เป็นเรื่องเฟค นิวส์ (Fake News) ดังนั้นการบริโภคข่าวต้องมีสติ เช็กและตรวจสอบก่อน อย่าไปเชื่อ ทั้งนี้ทหารไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนการรักษาความสงบวันที่ 25 พ.ย. เป็นหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ห้ามชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานรัศมี 150 เมตร ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้มีไอ้คนกลุ่มหนึ่งที่สร้างความไม่สงบขึ้น
