“หมอวรงค์” ห่วงมือที่ 3 ปลุกปั่นสร้างเหตุรุนแรง 19 ก.ย.
"ไทยภักดี" ค้านเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ
ความเห็นของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี ที่ยื่นหนังสือถึงตัวแทนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือดีอีเอส เรียกร้องให้มีการปฎิรูปกฎหมาย เพราะกลุ่มไทยภักดีประเมินว่า โซเชียลมีเดียเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิ่งปล่อยทั้งไว้ยิ่งเป็นอันตราย เสนอให้กระทรวงดีอีเอส เป็นแม่งานเสนอต่อสภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อออดกฎหมายฉบับนี้ ต้องมีความคืบหน้าภายใน 30 วัน หากไม่คืบหน้าจะยกระดับการเรียกร้อง อาจจะไปที่ทำเนียบรัฐบาล
นพ.วรงค์ยังยกตัวอย่างว่า ขณะนี้ประเทศอังกฤษกำลังผลักดันกฎหมาย เพื่อเอาผิดกับเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ถ้ามีการนำเสนอเนื้อหาสาระ ที่ผิดกฎหมาย แต่ไทยยังไม่ต้องถึงขนาดนั้น แต่ควรให้สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนกรณีที่ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี แจ้งความให้ดำเนินคดีกับตามความผิดมาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี
นพ.วรงค์ มีความเห็นว่า ไม่เป็นความผิด เพราะมีความบริสุทธ์ใจต่อสถาบันและอยากให้ประเทศสงบ พร้อมระบุว่า ยิ่งถูกแจ้งความ จะทำให้ประชาชนรัก มากขึ้น
นพ.วรงค์ยังพูดถึงกรณีกลุ่มเยาวชนถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า กระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอนการปฎิบัติกับเยาวชนอยู่แล้ว โดย นพ.วรงค์ระบุว่า "ถ้าเด็กซื่อไม่ทันเหตุการณ์หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตำรวจหรือศาลก็อาจไม่เอาผิด แต่ถ้าทำผิดก็ต้องเอาผิด และที่การแจ้งความดำเนินคดีข้อหานี้มากขึ้น เพราะช่วงนี้เพราะประชาชนตื่นรู้