แฉขบวนการค้า “เคนมผง” พบเชื่อมโยงทั่วกทม.
ตร.ย้ำ"เค นมผง -ทะเลทราย"อันตรายเสพถึงตาย
ตร.คุม จิ้มพ่อค้า"เค นมผง" รายย่อยฝากขัง
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน ที่ย่านลาดพร้าว-วังหิน จากการเสพยาเสพติดชนิด เค-นมผง เบื้องต้นได้สืบสวนขยายผล เพื่อตามหาแหล่งที่ว่าของยาเสพติดที่พบในจุดเกิดเหตุ และทราบเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยคาดว่ายังอยู่ในพื้นที่รัชดาภิเษก-วังหิน และตำรวจจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ไม่เกิน 1-2 วันนี้
พล.ต.ต. พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า สำหรับยาเสพติดที่พบในจุดเกิดเหตุนั้นเป็นยาเค นมผง ไม่ใช่ยาเสพติดที่ชื่อ ทะเลทราย ที่มีส่วนผสมของยาเคตามีน และเฮโรอีนเป็นส่วนประกอบ สำหรับผู้เสียชีวิต 2 คนดังกล่าวในคดีนี้ พบว่ามีลักษณะการตายคล้ายกับผู้เสียชีวิตทั้ง 9 คน ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปก่อนหน้านี้ คือลักษณะหัวใจล้มเหลว และระบบการหายใจล้มเหลว แต่ถึงอย่างไรต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจอย่างเป็นทางการเพื่อรอความชัดเจนอีก
ส่วนกรณีวัยรุ่นสาวเสิร์ฟร้านอาหารย่านพระราม 3 ซึ่งเสพยาเสพติดจนเสียชีวิต ภายในห้องพักซอยรัชดาภิเษก 18 พื้นที่ สน.สุทธิสาร เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พบหลักฐานแชตการสนทนากับพ่อค้ายา ที่กล่าวถึงยาเสพติดตัวใหม่ชื่อว่า ทะเลทราย” ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงกว่ายาเค นมผง หลายเท่า
สำหรับความแตกต่างของยาเค นมผง กับยาเสพติดชนิดใหม่ที่เรียกชื่อว่า ทะเลทราย เป็นยาเสพติดลักษณะเดียวกัน แต่มีส่วนผสมแตกต่างกัน โดยทะเลทรายมีสีออกไปทางสีครีม และสีน้ำตาล เป็นหลัก ขณะที่ เค นมผง จะมีลักษณะเป็นสีขาวคล้ายกับนมผง
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานจากบันทึกข้อความแชทของผู้ตาย ที่มีการสั่งซื้อยาเคจากผู้ค้ารายหนึ่ง แต่ผู้ค้ากลับส่งยาตัวใหม่ชื่อว่า ทะเลทราย ซึ่งมีลักษณะเหมือน เค นมผง แต่มีฤทธิ์แรงกว่ามาให้กับผู้ตายพร้อมบอกวิธีเสพ และกำชับผู้ตายว่าใช้แทนยาเค แต่อย่าดมเยอะ เพราะแรงกว่า ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเกิดเหตุสลดขึ้น ส่วนผู้ค้ายาเสพติดรายนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร สามารถระบุตัวตนได้แล้ว เนื่องจากมีหลักฐานการแชท และการโอนเงินอย่างชัดเจน เหลือเพียงพิสูจน์รายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมรอผลชันสูตรศพจากทาง รพ. คาดว่าจะมีการนำหลักฐานมาประกอบการขออนุมัติหมายจับผู้ค้ายาเร็ว ๆ นี้
สำหรับไทม์ไลน์ของหญิงสาวผู้ตายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลว่า ผู้ตายได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเวลา ตี1 วันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. ที่ย่านพระราม 3 ก่อนจะมีการสั่งซื้อยาเค จากผู้ค้ารายนี้ เวลาประมาณ ตี2 ผ่านช่องทางแชทในราคากรัมละ 700 บาท ต่อมาเวลาเกือบตี 3 ผู้ตายได้ส่งข้อความกลับไปต่อว่าผู้ค้าว่า ยาที่ได้มาไม่ใช่ยาเคตามที่สั่ง ซึ่งผู้ค้ารายนี้ได้อธิบายว่า ยาที่จัดส่งไปให้คือ ทะเลทราย ยาสูตรใหม่ที่เหมือน เค นมผง แต่กำชับว่าอย่าใช้เยอะเพราะทะเลทราย แรงกว่าหลายเท่า จากนั้นเวลาประมาณตี 3 ผู้ตายส่งข้อความกลับไปหาผู้ค้ายาว่า หลังจากใช้ยาดังกล่าวมีอาการอ้วก และเพื่อนที่ร่วมใช้ยาด้วยกันมีอาการช็อก น้ำลายออกปาก กำลังจะพาไปโรงพยาบาล
จากนั้น ช่วงเช้าของวันที่ 10 ม.ค. ประมาณ 07.00 น. ผู้ตายเดินทางกลับมาที่ห้องเช่าของแฟนหนุ่ม ด้วยอาการมึนเมา และขอนอนพักไป จนกระทั่ง เวลา 15.00 น. แฟนได้ลุกขึ้นมาพูดคุย และขอดื่มน้ำไปเล็กน้อย ต่อมาประมาณตี 1 ของวันที่ 11 ม.ค. มีเพื่อนของผู้ตายโทรเข้ามาหาแต่ผู้ตายไม่ตื่น แฟนหนุ่มจึงรับสาย โดยเพื่อนที่โทรมาสอบถามว่าผู้ตายมีอาการอย่างไรบ้างก่อนจะวางสายไป แฟนหนุ่มของผู้ตายจึงตัดสินใจปลุกแต่ก็ไม่ฟื้น จนกระทั่งพบว่าแฟนสาวได้เสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่จากการสอบปากคำ แฟนหนุ่มของสาวเสิร์ฟรายนี้พบว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งตนเคยตักเตือนไปแล้วว่าอย่าเสพยาชนิดนี้ เพราะเมื่อช่วงต้นปีเคยทดลองลองโดยการแตะลิ้น ซึ่งก็มีอาการหายใจไม่ออก และรู้สึกทรมานอย่างมาก จึงเชื่อว่ายาสูตรนี้อันตราย แต่แฟนสาวไม่เชื่อ ก่อนเสพจนเสียชีวิต
รพ.ธัญญารักษ์ ผู้เสพเข้าบำบัดกว่า 20 คน อาการรุนแรงเพียบ
ขณะที่ นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (รพ.ธัญญารักษ์) เปิดเผยว่า ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้ที่เสพ เค นมผง เข้ามาขอรับการบำบัดรักษาที่สถาบันฯ มากกว่า 20 คน โดยจำนวนนี้มีถึง 10 คน ที่มีอาการซับซ้อนและรุนแรง ซึ่งทีมแพทย์ต้องรับไว้เป็นผู้ป่วยใน และจากการสอบประวัติพบว่า ส่วนใหญ่มีการใช้ยาเค ผสมยาเสพติดชนิดอื่น หรือวัตถุออกฤทธิ์ประเภทยานอนหลับ ยาบ้า ไอซ์ โดยอาการที่พบหลัก ๆ คือเกิดจากฤทธิ์ยาเค ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน คิดว่าจะมีคนมาทำร้ายตลอดเวลา บางคนมีอาการง่วงซึม ทั้งนี้ทีมแพทย์และพยาบาลจะช่วยกันประเมินคัดกรองอย่างดี ก่อนเข้าสู่การดูแลรักษาตามระดับความรุนแรงของคนไข้ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานทางสาธารณสุข
นพ.สรายุทธ์ กล่าวถึงอันตรายของการใช้ เค นมผง ว่า บางคนอาจมีโรคประจำตัว หรือมีความไวในการรับสารเข้าไปออกฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาทไม่เท่ากัน ส่วนความยากง่ายและระยะเวลาที่ใช้ในการบำบัดรักษา คนไข้เสพ เค นมผง ในแต่ละเคส ก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าอาการซับซ้อน หรืออาการรุนแรงมากน้อยแค่ไหน แต่หากไม่ได้มีอาการสูญเสียถาวร ก็สามารถรักษาให้หายกลับมาเป็นปกติได้