ทนายเกิดผล ลั่น อบต.ต้องมีรับผิดชอบด้วย ปมยาย 89 ปีถูกเรียกเก็บเบี้ยสูงอายุ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ทนายเกิดผล ชี้ ปมยาย 89 ปีถูกเรียกเก็บเบี้ยคนชรา อบต.ต้องมีรับผิดชอบด้วย ขณะที่กรมบัญชีกลาง ยืนยันคุณยายยังได้เงินบำนาญพิเศษ ตามเดิม

เร่งหาทางช่วย ยาย 89 ปี ถูกเรียกคืนเบี้ยคนชรา

ยายวัย 89 ช็อก กรมบัญชีกลางเรียกคืนเบี้ยชราย้อนหลัง 10 ปี เกือบแสน

จากกรณีที่คุณยายอายุ 89 ปี แจ้งว่ากรมบัญชีกลาง มีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงินจำนวน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญ กรณีลูกชายเป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด นั้น

วันนี้ 25 ม.ค. 2564 นางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า  กรณีนี้ทางอบต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้มีหนังสือมาที่กรมบัญชีกลางว่าคุณยายมีสิทธิรับเงินบำนาญกับกรมบัญชีกลางหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่าคุณยายเป็นผู้ได้รับบำนาญพิเศษในฐานะทายาท และ เป็นมารดา ตั้งแต่ 1ธ.ค. 2549 ทางกรมบัญชีกลางก็แจ้งกลับไปยังอบต.ว่าคุณยายเป็นผู้ได้รับบำนาญ ซึ่งไปตรงกับระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ คือ  ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ หรือ สิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ กำหนดไว้ว่า ผู้ได้รับบำนาญเบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกันเมื่อคุณยายเป็นผู้รับบำนาญพิเศษ ก็เป็นลักษณะต้องห้ามที่จะไม่ได้รับสิทธิได้รับเงินเบี้ยงยังชีพผู้สูงอายุต่อมาก็เป็นหน้าที่ของอบต.ที่จะไปพิจารณาว่ามีการจ่ายเงินไปให้คุณยายแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่อย่างไร

หญิงวัย 56 ปีทุกข์หนัก แม่เสียชีวิตแล้วถูกเรียกเบี้ยผู้สูงอายุคืนกว่าแสนบาท

เมื่อถามว่าอบต.รู้หรือไม่ว่าก่อนจะจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคุณยายได้รับบำนาญพิเศษ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องมาดูว่าตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยวางเกณฑ์การจ่ายเงินอย่างไร แต่ในระเบียบของกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่ปี 2552 ก็ได้กำหนดคุณสมบัติไว้อย่างชัดเจน การจ่ายเงินเป็นตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน้าที่ของอบต.คงต้องคุยกับทางอบต.เขามีวิธีการตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติของผู้มีสิทธิอย่างไร

ส่วนข้อมูลของคุณยายได้รับเงินบำนาญพิเศษนั้น คุณยายได้รับบำนาญพิเศษเนื่องจากทายาทตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งเดิมมีการเบิกจ่าย จากมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ภายหลังมีการจ่ายตรงผ่านกรมบัญชีกลาง

เมื่อถามว่าองค์กรส่วนท้องถิ่นไม่สามารถเช็กดูได้ว่าคุณยายได้รับเงินประเภทไหนบ้าง โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ในข้อมูลนี้ทางอบต.ไม่มี แต่สามารถที่จะสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

เมื่อถามว่ามีการจ่ายเงินมา 10 ปีทำไมถึงไม่ตรวจสอบสิทธิตั้งแต่ต้น โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าวว่า เงินใดๆก็ตามในหลักการจ่ายเงินงบประมาณจะไม่จ่ายซ้ำซ้อนในเหตุเดียวกัน อย่างกรณีนี้วัตถุประสงค์ของเบี้ยผู้สูงอายุ ก็เพื่อยังชีพ ดังนั้นการจ่ายเงินงบประมาณจะไม่มีการจ่ายซ้ำซ้อน และในกรณีนี้ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นผู้ไม่มีสิทธิ จึงอยู่ที่การตรวจสอบคุณสมบัติตั้งแต่ต้น

เมื่อถามว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นคุณยายและญาติจะต้องทำอย่างไร โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า อาจจะต้องเป็นเรื่องของการเยียวยา ในเมื่อจ่ายตามระเบียบมหาดไทยขั้นตอนจะต้องมีการกำหนดว่า จะต้องผ่อนชำระหรือไม่ หรือ ยกเว้นดอกเบี้ย ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของอบต. ไม่เกี่ยวข้องกับกรมบัญชีกลาง ในส่วนของกรมบัญชีกลางคุณยายก็ยังเป็นผู้ที่มีสิทธิเงินบำนาญพิเศษเดือนละ 10,000 บาทตลอดชีวิต ไม่ได้เสียสิทธิในส่วนนี้

ส่วนจะมองว่ากรณีนี้เป็นการปล่อยปละละเลย หรือ ความละหลวมของเจ้าหน้าที่ได้หรือไม่ กล่าวว่า ในสมัยก่อนอาจไม่มีการลิงค์ข้อมูล หรือ ไม่มีฐานข้อมูลกลาง จะถามว่าใครผิดใครถูกก็คงพูดลำบาก

ด้านนาย เกิดผล แก้วเกิด ทนายความอิสระ  กล่าวว่า มุมมองของตนมองว่าคุณยายสุจริต คุณยายไม่ได้ทุจริต แต่เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่อบต. และเงินจำนวนนี้เป็นเงินภาษีของประชาชน และ เป็นเงินของแผ่นดิน โอกาสที่หลวงจะเรียกกลับคืนก็มีความเป็นไปได้สูง โดยตามกฎหมายแล้วหลวงก็มีสิทธิที่จะเรียกรับคืนได้ และ กรณีลักษณะนี้เคยมีคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีก่อนๆว่า ถึงผู้รับเงินจากแผ่นดินไปแล้วเป็นผู้ไม่มีสิทธิ ถ้าเป็นผู้สุจริตก็ถือว่า ลาภที่ควรได้  ศาลฎีกามองว่าก็คืนเท่าที่มีอยู่ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องคืน แต่เมื่อปี 2561 ศาลฎีกาก็กลับหลักว่า เงินส่วนนี้เป็นเงินของแผ่นดิน เป็นสวัสดิการ ไม่ใช่เงินชำระหนี้จึงไม่ใช่ลาภที่ควรได้ ก็ต้องคืนอยู่ดี

“ผมมองว่าไม่ใช่ความผิดคุณยาย ถ้าคุณยายจะต้องคืนทางอบต.ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เสียดอกเบี้ยก็เหมือนว่าทางอบต.แสดงสปิริตว่าไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย หรือ จะให้ผ่อนชำระอย่างไรก็ได้ ไม่ควรกำหนดต้องจ่ายเท่านั้นเท่านี้ หรือ กำหนดระยะเวลา คุณยายรับเงิน 500-600 บาทต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 ปี แต่พอเรียกเงินกลับคืนบอกว่าคุณยายจะต้องชดใช้ภายใน 1 ปี ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของคุณยาย ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่อบต.ต้องมีส่วนรับผิดด้วย”

เมื่อถามว่าถ้าอบต.ต้องรับผิดจะต้องผิดในทางใด หรือ จะต้องร่วมจ่ายเงินคืน ทนายเกิดผลบอกว่า สมมุติถ้าทางอบต.ไม่วสามารก็บเงินจากคุณยายได้เช่น คุณยายไม่มีอะไรเลย หรือไม่มีทรัพย์สินให้ยึด อย่างไรเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องรับผิดอยู่แล้ว แต่บังเอิญคุณยายมีทรัพย์สินให้ทางหน่วยงานรัฐยึดอายัดเท่านั้นเอง และ ล่าสุดเห็นว่าคุณยายตกลงรับสภาพหนี้ไปแล้ว

ส่วนจะหักเงินจากบำนาญพิเศษเดือนละ 8,000 บาทภายใน 1 ปี นั้น ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมมากกว่า แต่ก็เข้าใจว่าระเบียบตรงนี้ก็สามารถแก้ไขได้ เพราะออกระเบียบมาไม่ให้ความเป็นธรรมต่อประชาชน ถ้าเป็นตนจะสู้ไปจนถึงศาลปกครอง ตอนที่จ่ายให้เขาใช้ระยะเวลา 10 ปี แต่ตอนเรียกให้ชำระเงินคืนกลับให้ระยะเวลาเขาแค่ 1 ปี จึงถามว่าความผิดนี้เป็นความผิดของใคร

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ