วันนี้ ( 8 ก.ค. 58) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจโลก ที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 2 ปี พลาดเส้นตายอีกครั้งเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม คู่เจรจาประกาศเดินหน้าเจรจาต่อไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนเจรจาจากสหรัฐยืนยันว่า แม้จะไม่ได้ข้อสรุป แต่การเจรจาดังกล่าวใกล้ได้บทสรุปมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และการเจรจาจะถูกขยายออกไปจนถึงวันศุกร์นี้ นั่นหมายความว่า วันที่ 10 ก.ค. นี้ คือ เส้นตายใหม่ของการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านในครั้งนี้
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การเจรจาต้องหยุดชะงักลง เกิดจากความเห็นต่างของคู่เจรจาเกี่ยวกับแนวทางการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยเฉพาะประเด็นการยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธต่างๆ เช่น รถถังและขีปนาวุธ ให้แก่อิหร่าน
ชาติมหาอำนาจโลกทั้ง 6 ชาติ ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี ต้องการให้โครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นไปเพื่อสันติ ไม่ใช่เพื่อการสร้างอาวุธ โดยต้องการจะเข้าตรวจสอบและควบคุมโครงการดังกล่าว ขณะที่อิหร่านต้องการให้ชาติตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ทำให้อิหร่านส่งออกน้ำมันได้น้อยลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่การคว่ำบาตรในปี 2012 โดยผลสำรวจของบรรดานักวิเคราะห์น้ำมันชี้ว่า หากบรรลุการเจรจา การส่งออกน้ำมันของอิหร่านจะปรับขึ้น 60% และจะทำให้ผลผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้น และจะส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกต่อไป