วันนี้ ( 20 ก.ค.58 )ฝนที่ตกในพื้นที่ประสบภัยแล้งภาคกลางอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่สามารถไหลเข้าคลองชัยนาท-ป่าสักได้เองโดยไม่ต้องอาศัยการสูบ ถึง 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถส่งน้ำช่วยผลิตน้ำประปาในเขตจังหวัดสระบุรีและลพบุรีได้ คือ สถานการณ์ที่นายสุเทพ น้อยไพโรจน์รองอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการติดตามแนวโน้มและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำวันนี้
ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้กรมชลประทานและหน่วยงานในสังกัด สำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง อย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรีและสิงห์บุรี
โดยการช่วยเหลือจะพิจาณาจากลำดับความสำคัญตามนี้ ได้แก่ 1. คือ นาที่ข้าวตั้งท้องได้รับความเสียหายจากการขาดน้ำ 2 .ผลไม้และสวนกล้วยไม้ 3.ข้าวที่มีอายุต่ำกว่า 8สัปดาห์ 4.ข้าวที่มีอายุต่ำกว่า 6 สัปดาห์ 5.ข้าวที่มีอายุต่ำกว่า 4 สัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาเกณฑ์ความช่วยเหลือได้ในวันพรุ่งนี้
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเดินทางลงพื้นที่จังหวัดระยองว่า ที่ผ่านมาไม้ใช้ว่ารัฐบาลไม่ดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่จำเป็นต้องลำดับความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำที่เหลืออยู่ โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า อย่าคิดหรือเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ช่วย เนื่องจากรู้ปัญหาเรื่องฝนทิ้งช่วงและเตรียมแผนมาตั้งแต่ปี 2557 แต่ประชาธิปไตยที่ผ่านมาทำให้ป่าต้นน้ำหายเกือบหมด จึงไม่สามารถหาน้ำได้
