อาการคลุ้มคลั่ง ถึงขั้นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ของชายคนนี้ ทำให้ชาวบ้านในย่านเดียวกันไม่อาจไว้ใจ ตำรวจนอกเครื่องแบบพยายามสอบถามถึงความต้องการแต่เขาก็ไม่อยู่ในสภาพที่พูดคุยได้รู้เรื่อง กว่า 4 ชั่วโมงของการเกลี้ยกล่อม ทำให้ทราบว่าชายคนนี้มีประวัติเสพยาบ้า และนี่คือผลสืบเนื่อง
โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้น
หลายปีมานี้หน่วยงานด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติดพยายามศึกษาส่วนผสมของ ยาบ้า น่าสนใจว่าส่วนประกอบหลักคือ "แอมเฟตามีน" และส่วนผสมในตัวยาบ้า ไม่ใช่วัตถุออกฤทธิ์โดยตรงที่ทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งรุนแรงอย่างที่เคยเข้าใจ
ปรากฎการณ์นักโทษคดียาเสพติดล้นเรือนจำ เป็นผลโดยตรงจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนในส่วนนี้ เนื่องจากเคยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจยกระดับให้ย้าบ้าเป็นยาเสพติดประเภท 1 กำหนดบทลงโทษรุนแรง เมื่อปี 2539 จนส่งผลราคาของยาบ้าพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นต้นเหตุให้หลายคนเสี่ยงผันตัวมาเป็นผู้ค้ารายย่อย จนกลายสถานะเป็นนักโทษในวันนี้
การพลิกโฉมบทลงโทษคดียาเสพติด ด้วยการจัดทำประมวลกฎหมายที่กระทรวงยุติธรรมดำเนินการอยู่ กำหนดให้ยุติเอาผิดผู้เสพและลดโทษผู้ค้ารายย่อย เพราะต้องการตัดตอนความต้องการเสพที่เป็นต้นตอแทนที่การคุมขังให้นานที่สุด เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า วิธีเดิมไม่ช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาได้ แต่นั่นอาจจะไม่ง่ายที่จะอธิบายให้สังคมเข้าใจถึงการเดิมพันเปลี่ยนยุทธวิธีทำสงครามกับยาเสพติดครั้งนี้
ประมวลกฎหมายยาเสพติด คือ การนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 7 ฉบับ มารวมเป็นฉบับเดียว ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความเห็นของคนในวงการยุติธรรมเพื่อปรับแก้ไข คาดว่าจะส่งให้ครม.พิจารณาได้ในเร็วๆนี้