แก๊งหมวกกันน็อคไม่กลัวพ.ร.บ.ทวงหนี้ พบ 9 เดือนร้องเจ้าหนี้โหดพุ่ง 805 ราย (คลิป)


โดย PPTV Online

เผยแพร่




Bigstory แก๊งหมวกกันน็อคไม่กลัว พ.ร.บ.ทวงหนี้ ยอดร้องเจ้าหนี้โหด 9 เดือน พุ่ง 805 ราย ทุนทรัพย์รวม 300 กว่าล้านบาท

สำหรับกรณีแก๊งทวงหนี้โหดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ต.ค.58) โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี จนได้รับความเสียหาย โดยเจ้าของบ้านบอกว่า เป็นแก๊งทวงหนี้ที่ติดตามทวงหนี้ทุกวัน ซึ่งเหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดสามารถบันทุกภาพเหตุการไว้ได้

โดยภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณตี 1 ของคืนที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์กว่า 8 คนขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 5 คัน เมื่อมาถึง 2 ใน 3 คนได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านหลายนัด ขณะที่คนอื่นได้ใช้ก้อนหิน กระถางต้นไม้ขว้างปาเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะมีรถเก๋งขับเข้ามา ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุเช้าวันนี้ (19 ต.ค.58)  ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบบ้านได้รับความเสียหาย โดยเจ้าของบ้าน เล่าว่า ได้ไปกู้เงินนอกระบบจากนามบัตรที่มาเดินแจกตามบ้านพัก และได้กู้มาหลายเจ้า ล่าสุดไปกู้กับคนที่ใช้นามบัตรชื่อว่าน้ำหวาน เป็นเงิน 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ส่งวันละ 200 บาทโดยส่งไปแล้ว 4 วันแต่หาเงินไม่ทันเพราะขายของไม่ค่อยดีจึงขาดส่ง ก่อนจะถูกตาม ทวงหนี้มาเรื่อย

ด้านตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นการข่มขู่เพื่อให้ลูกหนี้รู้ตัวว่าให้นำเงินไปใช้หนี้ตามที่ได้กู้มา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกลุ่มและจะติดตามตัวมาดำเนินดคีตามกฎหมายต่อไป

ข้อมูลกรมคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ปี 2558 เรียกร้องการทวงถามหนี้ ด้วยวิธี ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย รวม จำนวน 805 รายจำนวนทุนทรัพย์รวม ทั้งหมด 300 กว่าล้านบาท

สถิติการร้องเรียน เรื่องหนี้นอกระบบ ในปี 2558 ข้อมูลจากกรมคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพกระทรวงยุติธรรม ภายใน 1 ปี พบพฤติกรรมร้องเรียนต่างๆเช่น ถูกแก็งค์ทวงหนี้ ข่มขู่ ด่าทอด้วยคำหยาบ จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ปีนี้พบยอดร้องเรียนของคนเป็นหนี้ถึง 805 ราย ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม จนถึงเดือนกันยายน เดือนที่พบมีเรื่องร้องเรียน มากที่สุด คือเดือนสิงหาคม มีจำนวน 516 ราย ส่วนเดือนกันยายน ตัวเลขอยู่ที่ 54 ราย ซึ่งเป็นช่วงที่ พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ 2558 คลอดออกมา เมื่อ 2 กันยายน 2558 หากเปรียบเทียบ 2 เดือน นี้ ก็จะเห็นตัวเลขชัดเจนว่า ยอดตัวเลข ลูกหนี้ร้องเรียนลดลงเกินครึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าพรบทวงหนี้ฉบับ.นี้ สามารถแก้ปัญหา ควบคุมแก็งค์ทวงหนี้โหด ได้เป็นผลดีระดับหนึ่ง

พ.ร.บ. การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 มาตรา 5 ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ "ต้องจดทะเบียน" ตามเงื่อนไขตามคณะกรรมการกำกับการทวงหนี้ มาตรา 39 ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ 2558 บังคับใช้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558ที่ผ่านมาหลังมีความพยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้มาตั้งแต่ปี 2552 สมัยรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ด้วยปัญหาทางการเมือง กฎหมายฉบับนี้ได้ถูกระงับไปกระทั่งเมื่อปี 2557 พระราชบัญญัติการทวงถามนี้ได้ถูกผลักดันอีกครั้ง ในรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในสโลแกน"คืนความสุขให้คนไทย" ที่เป็น "หนี้" โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อคุ้มครองลูกหนี้ จากการทวงถามนี้ที่ไม่เป็นธรรม

ตามกฎหมายฉบับนี้ ผู้ทวงถามหนี้ คือ ผู้ให้สินเชื่อ ผู้จัดให้เล่นการพนัน ซึ่งหมายรวมถึงหนี้ ทั้ง "ในระบบ" และ "นอกระบบ" และ ต้องจดทะเบียน กับคณะกรรมการกำกับการทวงหนี้ หากไม่จดทะเบียนจะมีโทษตามมาตรา 39 คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

สำหรับกฎระเบียบเวลา "ทวงถามหนี้" มาตรา 9 ซึ่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้จะกำหนดกรอบระยะเวลาชัดเจนที่จะให้ผู้ประกอบการทวงหนี้สามารถทวงหนี้ได้ โดย วันจันทร์-ศุกร์ สามารถทวงได้ในช่วง 08.00-20.00น. และในวันเสาร์ – อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ทวงได้ในเวลา 08.00-18.00 น.เท่านั้น หากทวงเกินกว่าเวลาที่กำหนดจะมีโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้ข้อห้ามของ "ผู้ทวงถามหนี้" มาตรา 11 ห้ามข่มขู่ ห้ามเปิดเผยความเป็นหนี้ ใช้ความรุนแรง มาตรา 12 ห้ามทวงหนี้ในลักษณะหลอกลวง อ้างเป็น ตำรวจ ทหาร มาตรา 13 ห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินตามที่ประกาศกำหนด มาตรา 14 ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ทวงถามหนี้ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง มาตรา 39 ทวงได้เฉพาะ "ลูกหนี้" และ "ผู้ค้ำประกัน" หรือผู้รับมอบอำนาจ

ซึ่งการกำหนดข้อห้ามของผู้ทวงถามหนี้ไม่ว่าจะเป็นการห้ามไม่ให้ใช้ความรุนแรง ไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเช่นทหาร ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทวงหนี้ รวมไปถึงการ ห้ามใช้ถ้อยคำละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือ วาจาไม่สุภาพ ซึ่งนอกจากจะ "แก้ปัญหาการทวงหนี้ทั้งในและนอกระบบ" แล้ว ก็ยังจะช่วย "บรรเทาความรุนแรงกรณีแก๊งทวงหนี้โหด"

หากผู้ทวงหนี้ ฝ่าฝืน หรือกระทำการเกินกว่าเหตุ หรือนอกเหนือไปจากที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ก็จะมีความผิด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-500,000 บาท" ซึ่งแบ่งเป็นทวงนอกเวลา จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทวงข่มขู่ รุนแรง จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ทวงหนี้เป็น "เท็จ" จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ

ขณะที่ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนถูกต้อง 9 บริษัท ไทยเอซ แคปปิตอล จำกัดซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน)ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และ ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) โดเมสติค แคปปิตอล 2015 จำกัด เมืองไทยลิสซิ่ง จำกัด เงินสดทันใจ จำกัด สหไพบูลย์ (2558) จำกัด

โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทวงหนี้ทั้งในและนอกระบบ ให้มาขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง แต่จนถึงปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเพียง 9 รายเท่านั้น ในขณะที่ผู้ประกอบการทวงหนี้นอกระบบยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก

นายอรรถพล อรรถวรเดช ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ต้องการทำตามกรอบกฎหมาย เพราะมีข้อห้ามหลายประการ นอกจากนี้ยังกำหนดอัตราการเก็บดอกเบี้ยในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย และคิดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ รวมกันแล้วไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี ทำให้รายได้น้อยลงซึ่งปัญหานี้ทำให้การติดตามเอาผิดแก๊งทวงหนี้โหดทำได้ยาก

หลัง พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ออกบังคับใช้เป็นกฏหมาย เพื่อเป็นประโยชน์ กับประชาชนที่เป็นหนี้ ซึ่งบางราย มองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้การทวงหนี้ปัจจุบันค่อนข้างเบาลง แต่สิ่งที่ดีที่สุด คือการไม่เป็นหนี้  ทีมข่าว PPTV ได้พูดคุยกับ ลูกหนี้และอดีตคนรับทวงหนี้ ก็ต่างมีมุมมองที่ต่างกัน

ตลอดเวลาหญิงวัยกลางคนนี้ต้องสวมหมวก เพื่อปกปิดบาดแผลที่เย็บมากว่า 20 เข็ม หลังผ่าตัดเลือดคลั่งในสมอง เพราะถูกทำร้ายร่างกายจากเจ้าหนี้เงินนอกระบบ เธอไม่สามารถ หาเงิน มาจ่ายหนี้ได้ทันเวลา จากเงินที่กู้มาเพียง 3000 บาท เธอถูกคิดดอกเบี้ย รวมเงินต้นและดอก ร้อยละ 20 ต่อวัน กลายเป็นเงินหลักหมื่นบาท ซึ่งเธอยอมรับว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต ในการใช้เงิน

บทเรียนของลูกหนี้ถูกกระทำแตกต่างกันขึ้นอยู่กับมาตราการของเจ้าหนี้ ทีมข่าว PPTV ได้พูดคุยกับชายวัย 30 ปี คนหนึ่งยอมรับว่า เคยรับจ้างเก็บเงินกู้นอกระบบ มานานกว่า 2 ปีแล้ว แม้เป็นงานที่เสี่ยงแต่ก็คุ้มค่า เพราะได้ค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 1,000-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับ ยอดทวงหนี้ และบางครั้ง ก็ต้องข่มขู่ แต่บางครั้งก็รุนแรง ถึงขั้นลงไม้ลงมือ หากลูกหนี้ ผิดนัดจ่ายเงิน หลายครั้ง

แม้พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 บังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถควบคุมการทวงถามหนี้ให้มีกฎหมายครอบคลุม โดยเจ้าหนี้ ห้ามข่มขู่ ห้ามใช้วาจาดูหมิ่น ห้ามเปิดเผยลูกหนี้ ตลอดจนทำร้ายร่างกาย ขณะที่ลูกหนี้ก็สามารถร้องเรียนพฤติกรรมการทวงหนี้ได้ หากอยู่ในสภาวะกดดัน หรือถูกข่มขู่คุกคาม แต่ปัจจุบันยังพบว่า การปล่อยกู้เงิน นอกระบบ หรือเงินด่วน ทันใจ ยังติดป้าย โฆษณา ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ ตามที่สาธารณะ เปิดเป็นช่องทางให้คนร้อนเงิน เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

การประกาศพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ฉบับนี้จะประกาศออกมาใช้อย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังคงมีกรณีการทวงหนี้โหดอย่างต่อเนื่อง และเริ่มพบว่าผู้ทวงถามหนี้เริ่ม เปลี่ยนรูปแบบการทวงหนี้ จากการใช้ความรุนแรง มาเป็นการให้ลูกหนี้ ใช้ชื่อไปซื้อรถจักรยานยนต์ แลกกับเงินก้อน ก่อนจะมายึดเอารถจักรยานยนต์ไปและให้ลูกหนี้ไปแจ้งความรถหาย ซึ่งกรณีนี้เพิ่งพบในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี

พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอบ่อวิน จังหวัดชลบุรี ถูกตำรวจจับ ข้อหา แจ้งความเท็จ หลังพนักงานโรงงานรายนี้ เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรบ่อวิน ว่ารถจักรยายนต์หาย แต่จากการสอบสวนตำรวจพบว่าไม่เป็นความจริง โดยพนักงานโรงงานคนนี้สารภาพว่า ที่แจ้งความเท็จเพราะได้รับคำแนะนำจากแก๊งเงินกู้ ให้ใช้ชื่อไปซื้อรถจักรยานยนต์ แลกกับเงิน 15,000 บาท โดยวันออกรถมีคนมาค้ำประกันและเอาเงินมาให้แต่หักเงินดาวน์ไปเหลือ 9,000 บาท เมื่อผ่อนค่างวดไปซักระยะ ได้ไปแจ้งความหายก่อนที่แก๊งเงินกู้จะมาเอารถไป ซึ่งกรณีแบบนี้ตำรวจในพื้นที่ระบุว่าที่ผ่านมาจับได้กว่า 8 รายแล้ว

สำหรับ "หนี้" เป็นปัญหาใหญ่ ที่กระทบผู้คนจำนวนมาก ข้อมูลของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่เคยสำรวจช่วงเดือน ตุลาคมปี 2557 พบว่าหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนสูงสุดในรอบ 9 ปี คือสูงถึงกว่าเกือบ 10 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็น "หนี้นอกระบบ"

สุดท้ายพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อมีเจตนาเพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ทวงถามหนี้ นับจากนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะสามารถบังคับใช้ได้จริง กับ แก๊งทวงหนี้นอกระบบได้หรือไม่

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ