ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน แห่งตุรกี เตือน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่า "อย่ากล่าวหาตุรกีโดยไม่มีมูล เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทั่วทั้งโลกทราบดีถึงสิทธิโดยชอบธรรมของตุรกี พร้อมตำหนิรัสเซียที่ห้ามนักท่องเที่ยวจากตุรกี รวมถึงโจมตีขบวนรถบรรทุกพาณิชย์และที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเล่นกับไฟ"
ผู้นำตุรกียังวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียถึงการให้การสนับสนุน "การใช้อำนาจรัฐก่อการร้าย" และการโจมตีกลุ่มกบฏในซีเรีย
ทั้งนี้ เขาหวังว่าจะได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินกันแบบ "ซึ่งๆ หน้า" ระหว่างการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 ที่กรุงปารีส เพื่อทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม คนใกล้ชิดของผู้นำรัสเซีย เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินจะพูดคุยกับผู้นำตุรกีก็ต่อเมื่อได้รับคำขอโทษแล้ว
ขณะเดียวกัน นายเซอร์กี ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียจะระงับข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกันกับตุรกี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป โดยระบุว่า ตุรกีเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงหลายกลุ่ม ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา ยังบ่ายเบี่ยงที่จะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับพลเมืองรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรง
นอกจากนี้ นายลาฟรอฟ ยังเรียกร้องให้นานาชาติขึ้นบัญชีดำกลุ่มกบฏซีเรียที่สังหาร 1 ใน 2 นักบินเครื่องบินซู-24 ของรัสเซีย ที่ถูกยิงตก รวมถึงสมาชิกในทีมช่วยเหลืออีก 1 คน พร้อมระบุว่า การเจรจาสันติภาพในซีเรียจะไม่มีความคืบหน้า หากชาติมหาอำนาจอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับการจัดทำบัญชีดำ
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียได้ยกเลิกการประชุมวางแผนยุทธศาสตร์ร่วมกันกับที่กรุงอิสตันบูล พร้อมประกาศเตือนพลเมืองรัสเซียให้งดเดินทางไปตุรกี รวมถึงจำกัดนักท่องเที่ยวจากตุรกีด้วย ส่งผลให้มีรถบรรทุกจากตุรกีติดค้างอยู่บริเวณชายแดนเป็นจำนวนมาก