ผู้สื่อข่าวทั่วโลกต่างรุมล้อมยกมือถามนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระหว่างแถลงข่าวประจำปีของเขาในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์อันดุเดือด และการจับตามองจากหลายฝ่าย หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบรัสเซียถูกตุรกียิงตกใกล้ชายแดนซีเรีย และการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอเอส
ขณะที่่สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า ในปี 2015 ของนายปูตินได้มีการถามตอบอย่างมาราธอนกับผู้สื่อข่าวที่เข้าร่วมงานเกือบ 14,000 คน ในการแถลงข่าวครั้งใหญ่ครั้งที่ 11 เวลา 12.00 น.ตามเวลามอสโก ถือว่าทุบสถิติของเขาเองเมื่อปี 2008 ได้สำเร็จ หลังเขาตอบ 106 คำถาม ในเวลา 4.40 ชม.
อีกมุมหนึ่งของมอสโก ตามร้านขายของที่ระลึกในสถานที่ท่องเที่ยวปรากฎภาพใบหน้าของนายปูติน และภาพนายปูตินขี่หมีสีน้ำตาลประทับลงของที่ระลึกต่างๆ มีชื่อประธานาธิบดีรัสเซียทั้งภาษาอังกฤษ และภาษารัสเซีย บนเสื้อ เข็มกลัด แก้วน้ำหรือตามของที่ระลึกอย่างตุ๊กตาแม่ลูกดก ซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์เชิงความศรัทธาของชาวรัสเซียในตัวของนายปูตินส่งมายังนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในดินแดนแห่งนี้
นายปูติน ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งของรัสเซีย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่หลายฝ่ายอาจมองกันว่า เกิดจากการทำโฆษณาชวนเชื่อ หรือเกิดจากการศรัทธาของประชาชนชาวรัสเซียในตัวของนายปูตินเองก็ตาม แต่สิ่งที่ปรากฎออกมายังประเทศรัสเซีย ณ ขณะนี้ คือ "นายปูตินต่างได้รับความนิยมจากชาวรัสเซีย"
นางยีฟจีนิย่า ยีลิสซีวา ลอชนิโกวา หรือ Евгения Елисеева-Ложникова ชาวเมืองฮัชคาลา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนประเทศจอร์เจีย เปิดเผยกับทีมข่าว PPTVHD ว่า "นายปูตินคือผู้นำที่ดีที่สุดสำหรับฉัน เราไม่แค่เคารพเขาเท่านั้น แต่เรารักผู้นำคนนี้ เนื่องจากปูติน เป็นนักการเมืองที่เข้มแข็ง ฉลาด มีการศึกษา และเป็นผู้นำที่ดีของชาวรัสเซีย ฉันมีความสุขที่มีประธานาธิบดีอย่างนายปูติน ซึ่งเป็นผู้สร้างให้รัสเซียยิ่งใหญ่ แม้จะเป็นเรื่องยากที่รัสเซียจะยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาทำได้ และทำให้ประชาชนยอมรับในตัวเขา"
โปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซีย ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงมอสโก มองว่า ขณะนี้นายปูตินมีบทบาทสูงมาก และมีอำนาจเหนือกว่าพระเจ้าของพระเจ้าเสียอีก ขณะที่ชายชราชาวรัสเซียที่วาดภาพขายบริเวณถนนอาบัด กรุงมอสโก เปรียบเทียบว่า "นายปูตินเสมือนเข็มฉีดยาให้กับประเทศรัสเซีย"
ซึ่งสอดคล้องกับชาวรัสเซียแถบตะวันออก บริเวณเขาคอเคซัส กล่าวว่า เขาศรัทธาในตัวของนายปูติน เพราะเมื่อนายปูตินเข้ามา ทำให้ประเทศดีขึ้น ทั้งเศรษกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้หลังเกิดการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสในตะวันออกกลาง ซึ่งรัสเซียมีส่วนร่วมในปฎิบัติการ โดยก่อนหน้านี้ได้โจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรีย และสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย กระทั่งทำให้เครื่องบินรัสเซียถูกกลุ่มไอเอสอ้างว่ายิงตกในคาบสมุทรไซนาย ของอียิปต์ จนทำให้นายปูติน ผู้นำรัสเซียพุ่งเป้าทิ้งระเบิด และโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัสเซียได้โจมตีกลุ่มไอเอส ในซีเรียด้วยขีปนาวุธระยะไกลจากเรือรบในเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย
พนักงานเมโทรรัสเซีย วัย 38 ปี กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการปฏิบัติการโจมตีในซีเรียรัสเซียมีสิทธิที่จะยุติการก่อการร้าย และไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย แต่สำหรับคนอื่นอาจเป็นเรื่องยาก ตนมองว่าในสถานะของนายปูตินยากจะจินตนาการและถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อต้นเดือน ธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มไอเอสเผยคลิปการฆ่าตัดคอสายลับชาวรัสเซีย พร้อมฝากคำเตือนถึงนายปูติน และพลเมืองรัสเซียว่า รัสเซียจะไม่สงบสุขเช่นเดียวกับสถานการณ์ในซีเรีย หากรัสเซียยังคงแทรกแซงทางทหารในซีเรีย
นายอเล็กซานเดอร์ ชายวัย 39 ปี ชาวเมืองวอลโกกราด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนล่างของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย กล่าวว่า สำหรับเขามองว่าไอเอสคือเพื่อนคนหนึ่งและไม่ได้รังเกียจ แม้จะมีการข่มขู่ก่อความไม่สงบก็ตาม ตนมองว่าสงครามครั้งนี้เป็นเพียงชั่วคราว และคิดว่าสหรัฐฯต้องการทำสงครามกับรัสเซีย และชาวรัสเซียทุกคนรอคอยวันนั้น แล้วพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของรัสเซีย ขณะที่สถานการณ์โลกที่เกิดขึ้นในเวลานี้ตนมองว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของน้ำมันในอิรัก
แม้ว่าสถานการณ์นอกประเทศรัสเซียจะดุเดือด แต่ทว่าบรรยากาศในรัสเซียตามเมืองต่างๆอาทิ มอสโก เออกรุสต์ และเมืองที่เป็นเส้นทางผ่านของรถไฟสายทรานไซบีเรีย จากมอสโกจนถึงวลาดิวอสตอก ซึ่งเป็นการเดินทางจากรัสเซียฝั่งยุโรปสู่เอเชียยังคงสงบ ผู้คนยังชีวิตกันอย่างปกติภายใต้บรรยากาศเทศกาลคริสมาสที่กำลังจะมาถึง
โดยกรุงมอสโก มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และสุนัข รักษาความปลอดภัยกันอย่างแน่นหนาไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญของจตุรัสแดง พระราชวังเครมลิน และกระจายกำลังตรวจรักษาความปลอดภัยตามสถานีรถไฟใต้ดินและบนดินของกรุงมอสโกอีกด้วย
ภัทร์ธีรา แก้วบุญเรือง
รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย