ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา กล่าวว่าเขาจะเป็นผู้แสดงความรับผิดชอบต่อความเปลี่ยนแปลงนี้เอง หลังแถลงว่ารัฐบาลเตรียมที่จะปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศให้สูงขึ้น โดยเบนซิน 95 ที่จำหน่ายในประเทศ จากลิตรละ 0.01 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 0.36 บาท ปรับขึ้นเป็นลิตรละ 0.60 ดอลลาร์สหรัฐ ราว 21 บาท เนื่องจากการประกาศมาตรการเปลี่ยนแปลงระบบค่าเงิน เงินสกุล Bolivar (โบลิวาร์) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ที่เกี่ยวโยงมาจากวิกฤตราคาน้ำมันโลก
ทั้งนี้ นายมาดูโร ย้ำว่า เวเนซุเอลายังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีราคาเชื้อเพลิงถูกที่สุดในโลก และมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากเป็นอันดับหนึ่ง แต่จำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงย่ำแย่ โดยเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา พึ่งพิงรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบร้อยละ 95
แน่นอนว่า การขึ้นราคาน้ำมันในประเทศ เสี่ยงจะทำให้เกิดเหตุจลาจล อาจจะต้องมองย้อนไปถึงปี 1989 โดยสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ครั้งนั้นคือความโกลาหลที่อยู่เหนือการควบคุมของรัฐ ภายหลังรัฐบาลปรับขึ้นราคาอาหารและน้ำมัน ประชาชนชาวเวเนซุเอลาออกมาประท้วงทั่วประเทศ กลายเป็นการก่อจลาจลครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน
การขึ้นราคาน้ำมันครั้งนี้ กลายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้นำเวเนซุเอลา เนื่องจากตอนนี้ เวเนซุเอลามีหนี้ต่างประเทศสูงถึง 1 แสน 2 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีโอกาสล้มละลายแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ของนาย มาดูโร่ อาจจะเป็นการปิดฉากเส้นทางการเมืองของเขาเลยก็ว่าได้ หลังฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา