วันนี้ (7 มี.ค. 59) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซ้อมรบของเกาหลีใต้และสหรัฐฯในโครงการ Key Resolve และ Foal Eagle นั้นเป็นต้นเหตุให้เกาหลีเหนือแสดงท่าทีตอบโต้อย่างแข็งกร้าว พร้อมออกมาเตือนว่าได้เตรียมความพร้อมเพื่อทำการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์แห่งความยุติธรรม
โดยสำนักข่าวเกาหลีเหนือรายงานว่าเกาหลีเหนือจะเป็นฝ่ายยิงก่อนเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ และพันธมิตรในการซ้อมรบ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าเป็นการเตรียมความพร้อมในการส่งทหารเข้ารุกรานเกาหลีเหนือ
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ เตือนเกาหลีเหนือให้ยุติพฤติกรรมยั่วยุที่จะนำมาซึ่งความหายนะของประเทศเอง โดยหากเกาหลีเหนือยังเพิกเฉยต่อคำเตือน เกาหลีใต้ก็จะตอบโต้อย่างไร้ปรานี
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ก็ยังคงเดินหน้าทำการซ้อมรบประจำปีตามปกติ ซึ่งในปีนี้เป็นการซ้อมรบด้วยกำลังพลจำนวนมากกว่าปีก่อนๆ โดยรายงานระบุว่ามีทหารสหรัฐฯ 17,000 นาย เข้าฝึกซ้อมร่วมกับทหารเกาหลีใต้ 3 แสนนาย
สำหรับโครงการ Key Resolve นั้นเป็นการซ้อมผ่านระบบจำลองคอมพิวเตอร์ โดยจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 18 มี.ค. 59 นี้ ขณะที่ Foal Eagle นั้นเป็นการฝึกภาคสนาม ซึ่งจะซ้อมจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. นี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสหประชาชาติได้มีมติบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นมาตรการลงโทษที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยห้ามการค้าหรือแลกเปลี่ยนใดๆ ที่เข้าข่ายเป็นการสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือ เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกลับมาร่วมเจรจาการปลดอาวุธนิวเคลียร์
อีกหนึ่งประเด็นร้อนในคาบสมุทรเกาหลี คือแผนการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯ ในประเทศเกาหลีใต้ โดยแผนการดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับ จีน รัสเซีย และ เกาหลีเหนืออย่างมากโดยทางการปักกิ่งกล่าวว่าการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD จะเป็นการบั่นทอนความมั่นคงในภูมิภาค และระบบดังกล่าวยังสามารถทำลายระบบป้องกันขีปนาวุธของจีนได้อีกด้วย