วันนี้ (21 มี.ค. 59) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีใต้ระบุว่า การยิงจรวดครั้งล่าสุดนี้ของเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นเพียง 3 วัน หลังการยิงขีปนาวุธระยะกลางครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2014
กองทัพเกาหลีเหนือแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวบ่อยครั้งขึ้น หลังจากที่สหประชาชาติมีมติบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดต่อเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงต่อสหประชาชาติ
อีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นแรงจูงใจให้เกาหลีเหนือทำการยิงขีปนาวุธ คือการซ้อมรบของเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา
ส่วนการซ้อมรบประจำปีระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา ปีนี้มีทหารเข้าร่วมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเกาหลีเหนือมองว่าไม่ได้เป็นการซ้อมธรรมดา แต่เป็นการเตรียมความพร้อมในการรุกรานเกาหลีเหนือ
แม้ว่าทางเกาหลีเหนือจะทำการยิงขีปนาวุธ หรือประกาศว่าขีปนาวุธของประเทศสามารถยิงเป้าหมายข้ามทวีปได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังตั้งข้อสงสัยถึงระยะยิงที่แท้จริงของอาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือ
แต่การยิงจรวดครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือในวันนี้ (21 มี.ค. 59) ทำให้จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือที่สุดออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อสถาณการณ์ความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี โดยในแถลงการณ์ฉบับล่าสุดนี้ จีนได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำที่เป็นการละเมิดข้อตกลงต่อสหประชาชาติ