ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจช่วงสงกรานต์ปีนี้ ว่าอยู่ในขอบเขตจำกัด แม้คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติมาตรการภาษี 2 มาตรการ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวจากผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ในช่วงสงกรานต์นี้ วันที่ 9 - 17 เมษายน ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศมาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินคนละ 1 หมื่น 5 พันบาท และการต่ออายุมาตรการกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทยที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ออกไปอีก 1 ปี โดยให้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สามารถนำค่าที่พัก และค่าบริการนำเที่ยวในประเทศมาลดหย่อนภาษีไม่เกินคนละ 1หมื่น 5 พันบาท โดยนิติบุคคลที่จัดสัมมนา สามารถนำค่าห้องสัมมนา ค่าที่พัก ค่าขนส่ง มาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวสงกรานต์ปีนี้ที่มองว่าไม่คึกคักมากนัก เกิดจากหลายปัจจัยได้แก่ ภัยแล้ง ที่ภาคส่วนต่างๆรณรงค์ให้ประหยัดน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งลดจำนวนวันในการจัดงานสงกรานต์ หรือแม้แต่การที่ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติวันหยุดเพิ่มเติมให้ในเดือนพฤษภาคม และกรกฎาคมไว้แล้ว จะทำให้ประชาชนวางแผนเที่ยวในช่วงเวลาต่างๆกระจายกันไป
ทั้งนี้คาดว่า มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ปี 2559 น่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ 10 วัน เพิ่มเติม 2 พัน 1ร้อย ล้านบาท ส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท
โดยคาดว่าธุรกิจร้านอาหารจะมีเงินสะพัดในช่วงสงกรานต์นี้ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยร้านอาหารที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ อาทิ ร้านอาหาร ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารในโรงแรม รวมถึงภัตตาคารต่างๆ คือเป็นร้าน หรือ ที่พัก ที่จดทะเบียนในระบบที่สามารถออกใบกำกับภาษีฉบับเต็มได้ เท่านั้น