วันนี้ (1 เม.ย. 2559) เป็นวันแรกที่ “เขื่อนอุบลรัตน์” จังหวัดขอนแก่น ต้องนำน้ำสำรอง หรือ น้ำก้นเขื่อนระบายออกให้ชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่น และมหาสารคาม ใช้อุปโภคบริโภค หลังประสบภาวะภัยแล้งรุนแรง ส่งผลให้ปริมาณน้ำกักเก็บลดต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี
ในแต่ละวันระบายน้ำประมาณ 8 แสนลูกบาศก์เมตร ไปจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม รวม 180 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจัดสรรให้กับส่วนที่จำเป็น เช่น ประปาหมู่บ้าน โรงงานอุตสาหกรรม ส่วนภาคการเกษตรได้งดให้การช่วยเหลือแล้ว
เช่นเดียวกับ “เขื่อนสิริกิติ์” จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำแห้งขอด จนเกิดสันดอนจำนวนมาก นับเป็นภัยแรงครั้งรุนแรงที่สุดตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อนมา 39 ปี
ปัจจุบันเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บประมาณ 4,036 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 42 มีปริมาณน้ำพร้อมใช้งานเหลือ 1,186 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 17.82 ปริมาณน้ำที่เหลือคาดว่าจะใช้ได้ถึงเดือนกรกฎาคม หรือประมาณ 120 วัน
ส่วน “เขื่อนภูมิพล” มีปริมาณน้ำเหลือ 4,418 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 32 สามารถใช้งานได้เพียง 615 ล้านลูกบากศ์เมตร หรือร้อยละ 6 แต่เขื่อนยังคงปล่อยน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ วันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดน้ำ ส่วนระดับน้ำที่ลดลงต่อเนื่อง ยังส่งผลกระทบต่อการเดินเรือขนส่งสินค้าไปยังเหนือเขื่อน ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น