อีกครั้ง.. เมื่อดอยสุเทพหายไปใต้ “หมอกควันไฟ” !?


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วิกฤติ “หมอกควันไฟ” กระทบคุณภาพชีวิต 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนป่วยพุ่ง ทะลุ 2 หมื่นราย

ปัญหาหมอกควันไฟยังคงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันวางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ในทางปฏิบัติยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ฮักแม่สาย” พร้อมใจกันถ่ายรูปตนเองใส่หน้ากากอนามัย พร้อมชูป้ายข้อความ #‎prayformaesai เพื่อหวังกระตุ้นให้หน่วยงานราชการ ลงมือแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างจริงจัง หลังจากค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10) สูงเกินค่ามาตรฐาน (120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.) ติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ โดยค่าสูงสุดที่วัดได้คือ 535 ไมโครกรัม/ลบ.ม.

 

ขณะที่วานนี้ "เครือข่ายอาสา ประชาชนภาคเหนือสู้ภัยฝุ่นควัน" ได้จัดทำแคมเปญรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ Change.org เรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือเป็นวาระแห่งชาติ

ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย. 2559) ชาวเชียงใหม่ต่างพากันโพสต์รูปถ่าย ที่แสดงให้เห็นว่าขณะนี้ไม่สามารถมองเห็น วัดพระธาตุดอยสุเทพและวัดพระธาตุดอยคำได้ตามปกติ เนื่องจากหมอกควันไฟที่ปกคลุมหนาแน่น ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนว่าปัญหาฝุ่นควันหลายพื้นที่ในตัวจังหวัด ยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

จากการตรวจสอบจุความร้อนด้วยระบบดาวเทียม เว็บไซต์กรมป่าไม้ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. พบว่า หลายพื้นที่ในภาคเหนือเกิดจุดความร้อนหลายจุด ทั้งจุดความร้อนจากการเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง และความร้อนจากไฟป่า

ปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ จะทำให้มีอาการทางระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไอ หายใจลําบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่ปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ส่วนประชาชนทั่วไป อาจมีอาการ ไอ หายใจลําบาก ระคายเคืองตา

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ข้อมูลจากสำนักควบคุมโรคที่ 1 จ.เชียงใหม่ รายงานผลการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพจากปัญหาหมอกควันใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลําปาง ลําพูน พะเยา แพร่ และน่าน ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2559 มีรายงานผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวัง จำนวนทั้งสิ้น 21,891 ราย แบ่งเป็น กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด 10,760 ราย กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด 8,711 ราย กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ 1,298 ราย กลุ่มโรคตาอักเสบ 1,122 ราย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข แนะนำ 4 กลุ่มเสี่ยงให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หรืองดกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว แต่หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากและจมูก โดยเปลี่ยนใหม่ทุกวัน และหากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที 

ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ไปติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควัน จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ เพราะหลังจากหมดวาระการประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้งทุกชนิด เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา และมีประชาชนบางส่วนเผาไร่ข้าวโพดในพื้นที่ป่าทางตอนใต้ของจังหวัด เพื่อเตรียมการเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ