การปราศรัยของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครตัวเต็งเพื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รัฐแคลิฟอร์เนียนี้ จัดขึ้นที่โรงละครแปซิฟิก แอมฟิเธียเตอร์ (Pacific Amphitheatre) ในย่านคอสตา เมซา ซึ่งมีประชาชนมาร่วมฟังกันเต็มความจุของสถานที่ กว่า 18,000 คน ขณะที่อีกผู้สนับสนุนนับร้อยคนต้องยืนอยู่ข้างนอก
ขณะเดียวกัน ก็มีมวลชนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์มาชุมนุมในบริเวณพื้นที่ปราศรัยอีกนับร้อยคนเช่นกัน ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้านก็เริ่มตะโกนด่าอีกฝ่ายกันไม่หยุด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำกำลังเข้ามาควบคุมสถานการณ์
แต่พอตกกลางคืนก็เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น โดยผู้ชุมนุมได้กระโดดขึ้นไปบนรถตำรวจจนทำให้กระจกแตก ขณะที่บางคนโยนก้อนหินใส่รถที่ขับผ่านไปมาในบริเวณนั้น ทำให้ตำรวจปราบจลาจลต้องเข้าควบคุมฝูงชนทั้งสองฝ่าย และจับกุมผู้ก่อความวุ่นวายได้กว่า 20 ราย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สำหรับเหตุการณ์รุนแรงระหว่างการปราศรัยของนายทรัมป์ และอาจจะเป็นสัญญาณเตือนถึงสิ่งที่จะตามมาหากเขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เนื่องจากแคลิฟอร์เนีย (California) เป็นรัฐที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะย่านปูเอโบล (Pueblo) ที่เป็นย่านชุมชนชาวลาตินอเมริกาและชาวเม็กซิกันที่เข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ก็ย่อมไม่พอใจกับนโยบายสุดโต่งของทรัมป์ที่จะสร้างกำแพงกั้นไม่ให้ชาวเม็กซิกันลักลอบเข้าประเทศมา และส่งผู้ที่เข้าเมืองผิดกฏหมายกลับประเทศ